กรณี ตำรวจ สภ.บูเก๊ะตา จ.นราธิวาส พบศพชาย 3 คน ถูกยัดท้ายกระโปรงรถโตโยต้ายาริส ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน นำไปทิ้งริมขอบบึงจือแร หมู่ 1 ต.แม่ดง อ.แว้ง จ.นราธิวาส คาดว่าเสียชีวิตมาประมาณ 3 วัน สภาพทั้ง 3 ศพ มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบชนิด เข้าที่ศีรษะ และในตัวไม่มีเอกสารหลักฐานใดๆ ต่อมายังพบศพถูกยิงลักษณะเดียวกันถูก นำมาทิ้งในแม่น้ำโก-ลก ช่วงบ้านไอร์ปาเซ หมู่ 7 ต.ฆอเลาะ อ.แว้ง ซึ่งทั้ง 2 จุด ห่างกันประมาณ 20 กม. เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

สุดโหด! ฆาตกรจ่อยิงหัว 3 ชายปริศนา ยัดท้ายเก๋งทิ้งบ่อน้ำอำพรางคดี

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 23 ก.พ. พ.ต.อ.ตรัยฤกษ์ ปัญญาไตรรัตน์ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พ.ต.อ.ฉลอง เล็กน้อย ผกก.สภ.บูเก๊ะตา ร่วมกันเดินทางไปสังเกตการณ์การปฏิบัติหน้าที่ของชุดนักประดาน้ำ จากมูลนิธิเซิ่งหมู่ธารน้ำใจสุไหงโก-ลก ฉลามแดนใต้ ที่สนับสนุนงมหาวัตถุพยาน อาทิ เสื้อผ้า อาวุธปืน โทรศัพท์มือถือและกุญแจรถโตโยต้า ที่คาดว่ากลุ่มคนร้ายอาจทิ้งลงไปในบึงจือแร จุดพบศพดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ชุดนักประดาน้ำ ใช้เวลางมหาวัตถุพยานนานกว่า 3 ชม. จากจุดพบศพไปยังฝั่งขวามือของขอบบึงจือแร ประมาณ 30 เมตร ซึ่งมีความลึกประมาณ 4 เมตร สามารถงมพบกระจกส่องหลังรถยนต์ที่กลุ่มคนร้ายได้แกะจากห้องโดยสารทิ้งลงไปในบึง ซึ่งเจ้าหน้าที่นำซิมการ์ดที่คาดว่า กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกเอาไว้ได้ไปตรวจสอบ

ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.สุพจน์ เรืองรุ่งโรจน์ รอง ผกก.ป.สภ.บูเก๊ะตา สนธิกำลังร่วมกำลังตำรวจ สภ.แว้ง สภ.บูเก๊ะตา 2 ชุดปฏิบัติการ เดินทางไปยังบ้านไม่มีเลขที่หลังหนึ่งในสวนปาล์ม บ้านกรือซอ หมู่ 4 ต.แว้ง ที่คาดว่าเป็นจุดที่กลุ่มคนร้ายใช้เป็นสถานที่ลงมือก่อเหตุยิงทั้ง 4 ศพ อย่างโหดเหี้ยวก่อนแยกย้ายนำศพไปอำพราง โดยนำทิ้งไว้ 2 จุด ดังกล่าว โดยจุดที่ 1 ใช้รถโตโยต้ายาริสเป็นพาหนะในการอำพราง 3 ศพ ในกระโปรงท้ายรถ จุดที่ 2 นำไปทิ้งในแม่น้ำโก-ลก ช่วงบ้านไอร์ปาเซ ห่างกันประมาณ 20 กม. โดยช่วงคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมผู้ต้องสงสัย 2 คน พร้อมอาวุธปืนพก ขนาด .32 มม. และอาวุธปืน ขนาด 9 มม. รวมเป็น 2 กระบอก และในช่วงเที่ยงของวันนี้ สามารถควบคุมผู้ต้องสงสัยได้เพิ่มเติมอีก 2 คน รวมเป็น 4 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้กฎอัยการศึกในการควบคุมตัวบุคคลทั้ง 4 ไปสอบสวนขยายผลที่กรมทหารพรานที่ 46 อ.เมืองนราธิวาส ซึ่งทราบว่า 1 ในนั้น เป็นกลุ่มคนร้ายที่สังหารโหด 4 ศพ และมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด รวมทั้งเป็นมือปืนรับจ้าง ที่มีประวัติเข้าออกเรือนจำหลายครั้ง

ด้านแหล่งข่าวชาวบ้านรายหนึ่งที่อาศัยอยู่ในละแวกที่คาดว่าเป็นสถานที่สังหารโหด 4 ศพ เปิดเผยว่า บ้านไม่มีเลขที่หลังดังกล่าวในช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. ของคืนวันที่ 20 ก.พ. ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นกว่า 10 นัด แต่ไม่มีชาวบ้านคนไหนให้ความสนใจ เนื่องจากจุดดังกล่าว เป็นแหล่งมั่วสุ่มของกลุ่มวัยรุ่น และเจ้าของบ้านเป็นคนที่ชาวบ้านเกรงกลัว โดยบางคนยังถูกข่มขู่ไม่ให้แจ้งเรื่องหรือนำเรื่องดังกล่าวไปพูดหรือบอกให้ใครทราบ ไม่เช่นนั้นจะไม่รับรองความปลอดภัย ซึ่งมีเจ้าหน้าที่หลายหน่วยมาสอบถามชาวบ้าน แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่มักบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า ไม่ทราบ ไม่รู้ ไม่ได้ยิน โดยไม่มีใครกล้าให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ และมาพบอีกครั้งเมื่อเจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยจากบ้านดังกล่าวไป 4 คน

เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีดังกล่าว เปิดเผยเป็นการส่วนตัวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานที่มีความเชื่อมโยงกัน อาทิ หัวกระสุนปืนที่ผ่าออกมาจากศพทั้ง 4 ศพ ตรงกันปืนที่ยึดได้มา 2 กระบะหรือไม่ รวมทั้งหมายเลขโทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิตทั้ง 4 คน ไปตรวจสอบว่าก่อนเสียชีวิต 1 วัน ได้โทรศัพท์ไปติดต่อกับผู้ใด และซิมการ์ดที่ติดในกระจกส่องหลังของรถยาริส ที่คนร้ายโยนทิ้งลงในบึงจือแร สามารถบันทึกพฤติกรรมของบุคคลใดได้บ้าง ซึ่งขณะนี้ถือว่าแนวทางการสืบสวนสอบสวนเดินทางมาถูกจุดแล้ว รอเพียงนำผลพิสูจน์วัตถุพยานที่เก็บรวบรวมได้ในจุดเกิดเหตุ ไปประติดประต่อกัน ซึ่งเชื่อว่าคงใช้เวลาอีกไม่นานเจ้าหน้าที่จะสามารถจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษได้ และเบื้องต้นร้อยละ 80 เป็นเรื่องของยาเสพติดมาเกี่ยวข้อง

พล.ต.ต.อนุรุธ อิ่มอาบ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เปิดเผยว่า ขออนุญาตคดีนี้ไม่สามารถพูดในเชิงลึกได้มากนัก อีกทั้งการทำงาน พยานหลักฐานส่วนใหญ่เป็นไปในเชิงนิติวิทยาศาสตร์ แต่อย่างไรก็ตาม ต้องบอกว่าทุกคนทำงานเต็มที่และตั้งใจ อยากนำเรียนไปยังพี่น้องประชาชน ประเด็นของสาเหตุเรื่องนี้ ให้น้ำหนักไปที่เรื่องยาเสพติด