เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีคนร้ายเป็นชาย ก่อเหตุพยายามกระทำอนาจาร ข่มขืนกระทำชำเรา น.ส.มุ้ย (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ชาวบ้านคำเกิ้ม ต.อาจสามารถ อ.เมืองนครพนม เหตุเกิดเมื่อ เวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 9 ต.ค. ที่ผ่านมา บริเวณปั๊มน้ำมันร้างแห่งหนึ่งฝั่งขาเข้าเมือง ริมถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 22 (นครพนม-สกลนคร) ใกล้กับสามแยกเข้าถนนทางหลวงชนบทหมายเลข 2019 (นาทราย-ท่าอุเทน) บ้านนามูลฮิ้น ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนม หลังผู้เสียหายขี่ จยย.ไปจอดเพื่อรอเพื่อน ชายที่นัดหมายกันทางแชตเฟซบุ๊ก จะไปเที่ยวงานไหลเรือไฟในเขตเทศบาลเมืองนครพนม จนกระทั่งมีคนร้ายไม่ทราบชื่อเป็นชาย ฉวยโอกาสบุกเข้ามาปลุกปล้ำ แต่ผู้เสียหาย ฮึดสู้กับคนร้าย หนีรอดมาได้ พร้อมแจ้งเหตุขอความช่วยเหลือไปยังหมายเลข 191 ประสานตำรวจมาตรวจสอบช่วยเหลือ

ร.ต.อ.วัตรสันณห์ เนตรหาญ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เปิดเผยว่า หลังได้รับแจ้ง จึงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ และเร่งสอบสวนติดตามหาคนร้ายมาดำเนินคดี ตามที่ผู้เสียหายอ้างว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีการทักแชตกับเพื่อนหญิงที่โทรฯมาชักชวนไปเที่ยว งานไหลเรือไฟ คือ น.ส.อิง (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี พร้อมมีการนัดหมายขี่ จยย.ไปจอดรอที่ปั๊มจุดเกิดเหตุ แต่มีคนร้ายฉวยโอกาสออกมาพยายามจะทำร้ายขืนใจ จึงฮึดสู้ช่วยเหลือตัวเองหนีออกมาได้ นอกจากนี้ยังให้การเชื่อว่า เพื่อนสาวที่นัดหมายเป็นนางนกต่อ ที่นัดหมายไปให้คนร้ายก่อเหตุ พร้อมให้ทางตำรวจสอบสวนสืบสวน ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี

ภายหลังการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทีมสหวิชาชีพ และตรวจสอบหลักฐาน กลับพบว่า มีความสับสน ผู้เสียหายให้การวกวน ขัดแย้งกับข้อเท็จจริง เนื่องจากมีการตรวจสอบหลักฐานจากโทรศัพท์มือถือ ไม่พบว่าก่อนเกิดเหตุมีเพื่อนสาวโทรฯมาชักชวน หรือทักแชตมานัดหมายตามคำกล่าวอ้าง และยังพบพิรุธว่า ผู้เสียหายให้การวกวนไปมา ทำให้ยังไม่สามารถสรุปข้อมูลรวบรวมพยานหลักฐานได้

โดยจากการตรวจสอบหลักฐานข้อมูลการทักแชตกับพบว่า มีการทักพูดคุยชักชวนกับเพื่อนชาย ไม่มีนางนกต่อตามกล่าวอ้าง เบื้องต้นทางตำรวจจึงมุ่งประเด็นว่า ผู้เสียหายอาจจะมีการนัดหมายกันกับเพื่อนชายที่รู้จักกันทางเฟซบุ๊ก จนกระทั่งนัดหมายไปเจอกัน แต่คนร้ายอาจมีการใช้เฟซบุ๊กปลอมโฟรไฟล์เป็นคนอื่นแทน เพื่อลวงสาวผู้เสียหายกระทำอนาจาร แต่ผู้เสียหายไม่กล้าพูดความจริง โดยทางตำรวจชุดสืบสวนจะได้เร่งสอบสวนสืบสวน หาเบาะแส ติดตามผู้ก่อเหตุมาคลี่คลายคดี ดำเนินคดีตามกฎหมาย และเค้นหาความจริงจากผู้เสียหายให้มากที่สุด

นอกจากนี้ทางผู้สื่อข่าวยังได้มีการพูดคุยสอบถามกับทางผู้เสียหาย ยังระบุว่า ก่อนเกิดเหตุมีการพูดคุยกับเพื่อนชาย โดยไม่ได้ระบุว่า มีนางนกต่อ ตามคำให้การกับตำรวจหลังเกิดเหตุ จากนั้นได้นัดหมายกันไปรอเพื่อน บริเวณปั๊มน้ำมัน จึงมีชายคนร้ายฉวยโอกาสก่อเหตุพยายามกระทำอานาจารจึงฮึดสู้เอาชีวิตรอด ส่วนชายที่พูดคุยรู้จักกันทางเฟซบุ๊ก เป็นคนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านละแวกเดียวกัน ซึ่งทางตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลและติดตามชายที่เกี่ยวข้อง มาสอบสวนข้อเท็จจริงและยืนยันตัวตน

ด้านนายบุญทุม เสนศิริ อายุ 64 ปี รปภ.ที่ดูแลปั๊มน้ำมันจุดเกิดเหตุ กล่าวว่า ในคืนเกิดเหตุยอมรับว่า ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลือในพื้นที่ใกล้เคียง จึงพยายามเดินหา จนกระทั่งพบเห็นเด็กผู้หญิงเดินออกมาจากหลังปั๊มน้ำมัน เพื่อขอความช่วยเหลือโดยบอกว่า ถูกคนร้ายพยายามจะทำร้ายร่างกายข่มขืน แต่หนีออกมาได้ สักพักทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ 191 เดินทางมาถึง จึงนำตัวไปสอบสวนหาเบาะแสคนร้าย แต่ไม่รู้ว่าช่วงหญิงสาวร้องขอความช่วยเหลือเกิดอะไรขึ้น เพราะอยู่คนละฝั่งของปั๊ม แต่ยอมรับว่าในช่วงกลางคืนชอบมีกลุ่มวัยรุ่นขี่ จยย.มาจอดพูดคุยกัน แต่ไม่เคยมีเหตุร้ายเกิดขึ้น เพราะตนคอยตรวจสอบดูแลตลอด.