เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังสถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี ได้พบกับ นายวัชระ (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ผู้เสียหาย พร้อมกับได้โชว์เอกสารที่มีทั้งหมด ให้ผู้สื่อข่าวดูพร้อมกับใบแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้กับทางร.ต.อ.ณเรศน์ พุ่มสุข รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชลบุรี ว่า ถูกดูดเงินจากบัญชีของธนาคาร… ของนายวัชระถูกโอนไปยังเลขบัญชีพร้อมเพย์ 0959750066 ชื่อบัญชีของนายเอกลักษณ์ พวงจันทร์ จำนวน 9 ครั้งเป็นเงิน 15,800,000 บาท และยังมีอีก 2 บัญชีรวมกันกว่า 150,000 บาท

จากการสอบถามนายวัชระ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ได้มีโทรศัพท์โทรเข้ามาอ้างว่า เป็นเจ้าหน้าที่จากกรมการค้าภายในได้โทรฯ มาบอกกับตนว่า ตอนนี้มีนโยบายให้ผู้ประกอบการติดตั้งแอปพลิเคชัน เพื่อทำการอัปเดตข้อมูลของตัวเองตอนนั้นตนก็กำลังยุ่ง ๆ จากนั้นก็มีไลน์เด้งมาให้เรากดลิงก์ตนก็ทำตามขั้นตอนพอเข้าได้ประมาณ 10 นาที ได้มีข้อความเด้งเข้ามาว่าเงินถูกกดออกจากบัญชี และเด้งมาเตือนอย่างต่อเนื่องจนบัญชีกลาง ที่ตนดูแลเป็นบัญชีที่ทำธุรกิจร่วมกับพี่สาวถูกดูดเงินออกจนหมดจำนวน 9 ครั้งหมดไปกว่า 16 ล้านบาทและมีบัญชีส่วนตัวอีก 2 บัญชีกว่า 1.5 แสนบาท ตอนที่เงินกำลังถูกดูดออกตนก็สังเกตว่า โทรศัพท์มีหน้าค้างที่แอปพลิเคชันที่ทางมิจฉาชีพให้กด ตนจึงรีบรีเซตโทรศัพท์ แต่ไม่ทันแล้ว และได้มีการเข้ามาแจ้งตำรวจไว้แล้ว

นายวัชระ กล่าวว่า อยากฝากถึงทางธนาคารให้เร่งรัดดำเนินการดูดเงินกลับคืนมาให้ตนด้วย เพราะตอนนี้ตนเดือดร้อนมาก เนื่องจากเป็นเงินที่ตนลงทุนทำธุรกิจกับพี่สาวและพ่อ จนช่วยกันเก็บมากว่าจะมีได้ขนาดนี้ ตนก็งงว่าเวลาเงินออกเยอะ ๆ ไม่มีเจ้าหน้าที่โทรฯมาสอบถามอะไรเลย จนหมดบัญชีคิดว่าน่าจะมีระบบป้องกันที่ดีกว่านี้นะ ตนก็อยากขอโทษพ่อสาวและพ่อด้วย ที่ดูแลรักษาเงินส่วนนี้ไว้ไม่ได้ หามาตั้งนานสุดท้ายมาจบแบบนี้ อยากฝากเตือนภัยอยากให้ระวังให้ดีถ้ามีสายจากโทรศัพท์อ้างเป็นเจ้าหน้าที่จากไหนก็ตามไม่ควรกดลิงก์ หรืออะไรที่เขาแนะนำให้รีบวางสายทันที ก่อนจะเจอแบบตนแบบหมดตัวไม่เหลืออะไร.