เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 28 ก.พ. ร.ต.ท.ณัฐิดา สัมดี ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุโพธิ์ทองว่า เกิดเหตุมีผู้รมควันฆ่าตัวตายภายในรถยนต์ที่บริเวณด้านหน้าโกดัง ย่านซอย 17 ต.โพธิ์ อ.เมืองศรีสะเกษ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบรถยนต์ปิกอัพฟอร์ด 4 ประตู สีดำ หมายเลขทะเบียน กน 1769 ศรีสะเกษ จอดอยู่บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าโกดังเก็บสินค้า ซึ่งเป็นสินค้าประเภทสระน้ำขนาดเล็ก สนามเด็กเล่นจำนวนมาก ภายในรถปิกอัพพบร่างของชายคนหนึ่งสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเหลือง และสวมกางเกงขาสั้นสีแสด ทราบชื่อภายหลังคือ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 50 ปี เจ้าของบริษัททำเกี่ยวกับสระว่ายน้ำ บริเวณที่นั่งด้านหน้าข้างคนขับ พบเตาอั้งโล่และถาดอะลูมิเนียมวางรองเตาอั้งโล่อยู่ จากการตรวจสอบไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้ายทำให้เสียชีวิตแต่อย่างใด มีภรรยาและบรรดาญาติพี่น้องพากันร่ำไห้อย่างน่าเวทนา

จากการสอบสวนพนักงานที่พบร่างคนแรก เล่าว่า ผู้ที่เสียชีวิตเป็นเจ้าของบริษัทขายสระว่ายน้ำ ที่ตนทำงานอยู่ด้วยมานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ พวกตนมาทำงานปกติและพบว่า รถปิกอัพของเสี่ยจอดอยู่ด้านหน้าโกดัง และเมื่อเข้าไปดูพบว่า เสี่ยนอนอยู่ในรถ ตนจึงได้เคาะกระจกรถ แต่เสี่ยไม่ยอมตื่น ตนจึงได้ลองเปิดประตูรถและพบว่ารถไม่ได้ล็อกประตู เมื่อเปิดประตูรถออกมา พบว่ามีควันไฟเต็มรถกระจายออกมา และพบว่าเสี่ยนอนเสียชีวิตภายในรถปิกอัพ ตนจึงได้รีบโทรศัพท์แจ้งให้ภรรยาของเสี่ยทราบ

โดยภรรยาของเสี่ยคนดังกล่าว กล่าวว่า เมื่อคืนนี้ ตนกับสามีก็นอนพูดคุยกันตามปกติ พอตื่นมาพบว่าสามีตื่นไปทำงานก่อนแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่สามีของตนจะลุกขึ้นไปทำงานตั้งแต่เช้าตรู่ทุกวัน ตนจึงได้ไปส่งลูกที่ รร. และพอได้รับโทรศัพท์จากคนงานตนจึงได้รีบมาดูสามีและพบว่ารมควันฆ่าตัวตายแล้ว ส่วนสาเหตุการฆ่าตัวตายนั้น ปัญหาในครอบครัวไม่มีแต่อย่างใด แต่ว่าสามีมักจะบ่นกับตนเรื่องปัญหาธุรกิจ เนื่องจากว่า ช่วงนี้ขายสินค้าไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้มีปัญหาเรื่องการเงิน แต่ตนไม่คิดว่า สามีของตนจะคิดสั้นมาฆ่าตัวตายแบบนี้ ซึ่งตนไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตแต่อย่างใด

ทางด้าน พ.ต.ท.บุญธรรม ฝั่งสระ รอง ผกก.(ส.) สภ.เมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า ทางแพทย์ รพ.ศรีสะเกษ จะต้องทำการชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตของนายเอ ตามระเบียบ จากนั้นเมื่อทางญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต ก็จะได้มอบศพให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป