เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 2 มี.ค. ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการสัมมนา “บทบาทท้องถิ่นไทยกับการกระจายอำนาจเพื่อการไปต่ออย่างยั่งยืน” พร้อมกล่าวปาฐกถา “ท้องถิ่นต้องไปต่อ” และทำพิธีเปิดโครงการสัมมนา “บทบาทท้องถิ่นไทยกับการกระจายอำนาจเพื่อการไปต่ออย่างยั่งยืน” ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (ศูนย์สามพร้าว) พล.อ.ประยุทธ์ ได้พบปะประชาชนชาวอุดรธานี ที่มาให้กำลังใจ ชูป้ายขอบคุณโครงการรัฐบาล ที่สร้างอาชีพ สร้างรายได้เกษตรกร เช่น ชาวอีสานรักลุงตู่ ลุงตู่ซื่อสัตย์ จริงใจไร้โกง โคตรรักลุงตู่ ใครด่าลุงกูด่ากลับ เป็นต้น โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้มาตรวจราชการ ถือโอกาสมาพบปะชาวอุดรธานี หลายเรื่องที่ขึ้นป้ายอยู่ก็รับทราบ เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะนำกลับไปพิจารณาดูแล วันนี้ยินดีที่ได้พบกันอีก บางคนเคยพบกันหลายครั้งแล้ว บางคนอาจจะยังไม่เคยเจอกัน ก็จะได้เจอ วันนี้เจอตัวตนนายกรัฐมนตรี

นายกฯ ยังกล่าวอีกว่า ขอพูดโดยไม่ดูสคริปต์ เป็นการพูดจากหัวใจของนายกรัฐมนตรี บอกเรากำลังเดินหน้าไปสู่สังคมผู้สูงวัย เพราะประเทศไทยเป็นประเทศต้นๆ ในโลก ที่ดูแลเรื่องสุขภาพได้ดีมากที่สุด ในการเข้าถึงระบบประกันสุขภาพ เรื่องรายได้ เราจะต้องสร้างเศรษฐกิจฐานรากเราให้ได้ ด้วยการปรับปรุงพัฒนา ทั้งนี้ในการมอบนโยบายให้ อบต. เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้ให้แนวทางต้องกลับมาดูแลประชาชนฐานรากให้มากขึ้น รัฐบาลจำเป็นต้องหางบประมาณเพิ่มมากขึ้น เพื่อกระจายไปสู่ท้องถิ่นให้มากขึ้น ยืนยันว่าตนจะทำอย่างเต็มที่ ให้ดีที่สุด เพราะนี่คือคนไทยด้วยกัน เราต้องร่วมจิตร่วมใจเป็นคนไทยที่ดี สำหรับดินแดนแหลมทองของเรา อีสานเป็นส่วนที่สำคัญมาก เพราะมีการเชื่อมโยงกันทั้งในและต่างประเทศ ขออย่างเดียวคือความรัก ความสามัคคี

จากนั้น นายกฯ ถามประชาชนว่า ให้นายกฯ ได้หรือไม่ ความรัก ความสามัคคี ไม่ทะเลาะเบาะแว้ง แตกแยกกัน รัฐบาลต้องเป็นแบบนี้ ดูแลทุกคนอย่างทั่วถึง วันนี้ตนไปทุกจังหวัดได้ทั่วประเทศ ไปรับฟังปัญหา หาวิธีการแก้ไข และถ้าไม่รักลุงตู่ แล้วจะไปรักแมวที่ไหน

“วันนี้เอาหัวใจมาฝาก ในนามนายกรัฐมนตรีต้องรักทุกคน ผมเป็นนายกรัฐมนตรี วันนี้ต้องรัก วันหลังก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ทำเพื่อคนไทยทุกคน ทำมาตลอดเวลาที่ผ่านมา รักทุกคน วันนี้พูดเยอะลมเข้าท้อง ขอบคุณในน้ำใจไมตรี และชีวีที่ยังคงมีค่า กว่าไตรรงค์ที่คลุมเมื่อยามตาย” นายกฯ กล่าว

จากนั้นช่วงบ่ายนายกรัฐมนตรี เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์มายังองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู เพื่อตรวจติดตามการดำเนินงานตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด จ.หนองบัวลำภู ในระยะเร่งด่วน 3 เดือน (หนองบัวลำภูต้นแบบสีขาวปลอดยาเสพติด)

ต่อมา นายกฯ ร่วมเป็นสักขีพยาน ในโอกาสผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4-31 ก.) สำหรับใช้ก่อสร้างศูนย์พัฒนาเด็กเล็กองค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์แห่งใหม่ ให้แก่นายกองค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์

จากนั้น ก่อน นายกฯ กล่าวพบปะประชาชน โดยเหมือนเช่นเคยมีการฉายวีดิทัศน์ผลงานรัฐบาลที่ผ่านมา โดยนายกฯ กล่าวว่า วันนี้มาเยือนอีกครั้ง นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือน ต.ค. 65 เป็นความสูญเสีย สะเทือนใจของคนไทยทุกคน  เราได้ประจักษ์แล้วว่ายาเสพติดเป็นต้นตอสำคัญในเรื่องความรุนแรง นอกจากสุขภาพแล้ว และครั้งที่แล้วที่เกิดเหตุการณ์เกิดขึ้น ขอให้ทุกคนนึกถึงพระเมตตาพระมหามงคลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่มอบขวัญกำลังใจให้ทุกคน วันนี้สถานการณ์ผ่านมาแล้ว 3 เดือน ตนได้สั่งการชัดเจนให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ศึกษาบูรณาการจะทำอย่างไรช่วยแก้ปัญหา รวมถึงทำอย่างไรให้เกิดการประสานงานบูรณาการกันไปสู่เป้าหมาย เป็นจังหวัดที่ปลอดยาเสพติด มันจะเป็นแม่แบบต้นแบบต่อไป ซึ่งทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าวันนี้ปัญหายาเสพติดเรามีมากพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจำหน่ายวันนี้ เราได้มีการจับกุมดำเนินคดีจำนวนมาก ตนได้กำชับทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะแนวชายแดน จับได้หลายสิบล้าน จะเห็นว่ายังมีความต้องการสูงในประเทศไทย ทำอย่างไรจะลดปริมาณความต้องการนี้ให้ได้ 

วันนี้รัฐบาลมุ่งเน้น 3 ระดับด้วยกันคือการป้องปราม ป้องกันและปราบปราม อันสุดท้ายคือการบำบัดฟื้นฟู สิ่งสำคัญต้องแยกเป้าหมายให้เจอเป้าหมายสีเขียว สีส้ม และสีแดง จะต้องมีมาตรการเฉพาะจะทำอย่างไร ฉะนั้นการใช้งบประมาณจึงมีความสำคัญ รัฐบาลมุ่งเน้นการใช้จ่ายงบประมาณอย่างคุ้มค่าและประหยัด มีหลายอย่างที่จะต้องทำงบประมาณที่ใช้ตรงนี้ ทั้งนี้สารตั้งต้นยาเสพติดกำลังไล่อยู่ว่ามาตรงไหน ต้องลงโทษทั้งหมด ซึ่งมีกลวิธีหลายอย่าง สิ่งสำคัญคือเจ้าหน้าที่ทุกคน ถ้าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ตนลงโทษเด็ดขาด ถ้าทำดีสนับสนุนต่อไป ต้องเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เจ้าหน้าที่ของประชาชนเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส ไม่ใช่นายกฯ พูดโครมครามก็ยังมีอยู่ ตนไม่ได้พูดถึงท่าน แต่พูดถึงคนเลว สังคมโลกเรามีทั้งคนดี คนเลวคนชั่ว ทำอย่างไรจะมีคนดีให้มากที่สุด มีคนชั่วให้น้อยที่สุด หรือไม่มีเลย

“ขอบคุณที่อุตส่าห์มารับในวันนี้ ตั้งแต่เช้าพูดมากท้องขึ้นแล้ว เป็นนายกฯ พูดเยอะ ไม่พูดก็ไม่ได้ ปัญหายาเสพติดมีความซับซ้อน บางทีมีใต้โต๊ะ ใต้อะไรอีกเยอะแยะ เขาเรียกว่าซับซ้อน ฉะนั้นวันนี้เราต้องแก้ไขปัญหาภายในประเทศของเรา สิ่งที่คาดหวังตอนนี้คือความร่วมมือ ร่วมใจในชุมชน ในหมู่บ้าน รักลูก อย่ารักในทางที่ผิด ผมให้เวลาไปแล้ว 3 เดือน เหลืออีก 1 เดือน จะต้องทำเป็นรูปธรรมให้เห็น ผมชอบพูดคำว่านะจ๊ะ เพราะมันรู้สึกใกล้ชิดกันดี ผมก็เป็นคนแบบนี้แหละ วันนี้ต้องทำต่อให้สำเร็จ ความสำเร็จวัดผมด้วยคนเหล่านี้ ต้องไม่มีในสังคม แต่ถ้าทำแล้วไม่สำเร็จ ก็อย่าทำ กลับบ้านดีกว่าเสียเวลา อย่างไรก็ตาม ขอให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ดูแลในเรื่องของงบประมาณปราบปรามยาเสพติดด้วย”

นายกฯ กล่าวอีกว่า มีอะไร คิดอะไรไม่ออกบอกทหาร ขืนไม่มีทหารจะลำบาก เพราะกระทรวงไม่มีคน ทหารมีไว้รบ ทหารวันนี้ลดลง น้อยมากจากอัตราเต็ม แต่นี่คือประเทศของเรา บางคนเรียนนักศึกษาวิชาทหาร 5 ปี ไม่ต้องเป็น เพียง 3 ปี ก็ลดลงมาหน่อย แต่การฝึกเพื่อให้เป็นระเบียบ ตอนฝึกอาจจะอึดอัดหน่อย แต่ขอให้เชื่อมั่นถ้าเราไม่มีปัญหาน้ำท่วม ฝนแล้งทหารเข้าไปช่วยก่อน ไม่ต้องจ้างให้เงินเดือน ทำทุกอย่างแล้วทำไมจงเกลียดจงชังทหารนักหนาไม่เข้าใจ ตกลงทหารเราวันหน้าใช้ดาบไปฟัน ไม่ต้องมีอาวุธยุทโธปกรณ์ใดๆ ทั้งสิ้น ใช้ดาบจะให้ออกรบกับเขา คนพูดไปรบกับเขาด้วยนะ นายกฯ เป็นคนตลก ไม่ใจร้าย ไส้ระกำ แต่ใจร้ายกับไอ้คนชั่ว 

ต่อมานายกฯ เยี่ยมชมนิทรรศการการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของแต่ละอำเภอของหนองบัวลำภู พร้อมให้กำลังใจผู้ที่ได้รับการบำบัดและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวระหว่างพบกับชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ว่า “ฝากหัวใจของเราไว้ที่นี่ด้วยนะ”

ทั้งนี้ ขณะที่การลงพื้นที่หนองบัวลำภู พล.อ.ประยุทธ์ ใช้รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าอัลพาร์ด สีขาว หมายเลขทะเบียน 2 ขก 7927   กรุงเทพมหานคร โดยก่อนเดินทางกลับ นายกฯ ได้ถ่ายรูปรวมกับ ว่าที่ผู้สมัครพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ก่อนที่จะกล่าวว่า “โชคดีนะจ๊ะทุกคน จะทำอะไรก็แล้วแต่ ฉันไม่รู้นะว่าเธอทำอะไร” พร้อมกับหันมาโบกมือและส่งสัญลักษณ์มินิฮาร์ตให้ประชาชน พร้อมกล่าวว่า “จริงใจให้กัน เดินได้แน่ประเทศไทย”

จากนั้นนายกฯ ได้ถ่ายรูปกับสมาชิก อบต.หนองบัวลำภู พร้อมทำท่าดอกบานร่วมกับสมาชิก อบต. อย่างอารมณ์ดี โดยนายกฯ ยกมือขึ้นแนบที่ใบหน้าทั้งสองข้าง พร้อมบอกว่า “ยกสองมือเท่ากับดอกไม้บานสองดอก หรือสองกลีบเลย” อย่างไรก็ตาม มีการการมอบดอกกุหลาบ และมีป้ายต้อนรับนายกฯ โดยมีข้อความ อาทิ นายกฯ ในดวงใจ, FC ลุงตู่, หนองบัวลำภูอยากให้ลุงตู่เป็นนายกฯ, หนองบัวรักลุงตู่, แล้วสูงอายุขอบคุณลุงตู่ 1,000 บาท, ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ, ลุงตู่สู้ๆ, ขอให้อยู่นานๆ

พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ว่า รักทุกคน จริงใจให้กันเดินได้แน่ประเทศไทย 

เมื่อถามว่ามือนายกฯ ที่บวมเป็นอะไร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มันบวมนิดหน่อย ไม่รู้เป็นอะไรเหมือนกัน แต่ไปเช็กแล้วไม่เป็นอะไร อาจจะเป็นเพราะพูดมาก เดี๋ยวก็หาย ขอให้ทุกคนเดินทางปลอดภัย อะไรที่พูดไปเป็นเรื่องที่เราอยากให้เขามีความสุข เข้าใจหรือไม่ ซึ่งเราก็รู้ว่าบรรยากาศที่นี่ก่อนหน้านี้มันเศร้า ซึ่งเราก็อยากให้เขาคลายเครียด แต่งานต้องทำจริง นั่นคือสิ่งที่รัฐบาลเอาจริงเอาจัง ซึ่งการแก้ไขปัญหายาเสพติดต้องครบทั้งระบบ และระบบที่ 3 ในส่วนของการรักษา แต่ก่อนค่อนข้างมีปัญหา วันนี้เอามาเซตใหม่ และการมาช่วยกันก็ซ้ำซ้อน คุมไม่ได้ก็ยังมีอยู่ แต่อย่าไปตำหนิเขาเลย ขึ้นอยู่กับรัฐบาล ในฐานะที่เป็นรัฐบาลก็ต้องทำให้ดีที่สุด

เมื่อถามว่าลงพื้นที่ถี่ๆ เหนื่อยหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่เหนื่อยๆ ลงมาตรวจงาน นายกฯ จะไปเหนื่อยอะไร

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าจะตรวจจนวินาทีสุดท้ายจนยุบสภาใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ฉันเป็นนายกฯ ต้องมีหน้าที่ทำงานทุกวันหรือเปล่า งานมันเข้ามาตลอดแหละ เดี๋ยวก็หาเรื่องกันจนได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยรอยยิ้มอย่างอารมณ์ดี 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่อุดรธานีและหนองบัวลำภูครั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า มือด้านขวาของนายกรัฐมนตรีบวมเป่งอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งจากการสอบถามคนใกล้ชิดนายกฯ เปิดเผยว่า เกิดจากอาการนิ้วล็อก ซึ่งนายกฯ ได้โทรศัพท์หาหมอระหว่างลงพื้นที่แล้ว ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ พูดระหว่างเดินพบประชาชนว่ามือบวมนิดหน่อย.