จากกรณีเพจปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้านได้โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความระบุว่า “ทองอุไรต้นนี้ ราคาต้นละ 6,090.50 บาท ซื้อทั้งหมด 37 ต้น รวมเป็นเงินทั้งหมด 225,348.50 บาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการปรับภูมิทัศน์คลองพังงา ของจังหวัดพังงา เมื่อปี 65 พิกัดอยู่ที่หน้าศาลากลางจังหวัด” โดยมีผู้เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างล้นหลาม ก่อนเพจฯ จะโพสต์อีกว่า “กินจนศาลากลางร้างสร้างไม่เสร็จ ขยับไปกินคลอง กินเสาไฟ แล้วก็ย้ายไปกินทองอุไร นั่นแหละครับ”

กังขา ‘ทองอุไร’ หน้าศาลากลางพังงา ต้นละ 6 พัน หมดเงิน 2 แสนกว่าได้ 37 ต้น

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปทำการตรวจสอบ บริเวณด้านหน้าศูนย์ราชการจังหวัดพังงา หมู่ 3 ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมือง จ.พังงา พบว่ามีการทำโครงการก่อสร้างแนวกันริมตลิ่ง ปรับภูมิทัศน์ โดยมีการดำเนินการเสร็จสิ้นไปแล้ว ไม่พบป้ายชื่อโครงการ และได้ทำการตรวจสอบต้นทองอุไรพบว่า มีการปลูกไว้รอบๆ คลองระบายน้ำที่มีการเรียงหินและมีทางเท้าโดยรอบ ซึ่งต้นทองอุไรมีการเจริญเติบโตและขนาดที่ไม่เท่ากัน เบื้องต้นพบว่าเป็นโครงการปรับภูมิทัศน์คลองพังงา ของจังหวัดพังงา โดยสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดพังงา มูลค่าโครงการ 30,000,000 บาท วันเริ่มสัญญา 22 ต.ค. 2564 วันสิ้นสุดสัญญา 19 ส.ค. 2565 ดำเนินการจัดจ้างโดยวิธี “คัดเลือก”

ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งข่าว ว่า ในโครงการปรับภูมิทัศน์คลองพังงา นอกจากพบว่าต้นทองอุไรต้นละ 6,090.50 บาทแล้ว ยังพบว่ามีต้นรวงผึ้ง 2 ต้น ราคาต้นละ 20,098.65 บาท รวม 40,197.30 บาท มีการปลูกหญ้า 587,350.92 บาท และยังมีน้ำพุพร้อมอุปกรณ์อีก 1 ชุด ราคา 6,000,560 บาท ซึ่งพบว่าเคยเปิดใช้ช่วงก่อนผู้ว่าราชการคนเก่าจะย้ายไปจังหวัดสตูลอยู่เพียงไม่กี่วันเท่านั้น

ขณะที่ชาวจังหวัดพังงาจำนวนมาก ต่างแสดงความคิดเห็นว่าขอให้หน่วยงาน ปปช. รีบเข้าตรวจสอบโครงการนี้ด้วย เพราะรู้สึกว่าไม่คุ้มค่ากับเงินภาษีของประชาชน.