เมื่อกลางดึกของวันที่ 10 มีนาคม พ.ต.ต ธงชัย แก้วจรูญ สว.(สอบสวน) สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุ รถยนต์เก๋งพุ่งชนรถจักรยาน คนขี่จักรยานตกลงจากสะพานต่างระดับอยุธยา มุ่งหน้าเข้าเกาะเมือง ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ ทีมแพทย์กู้ชีพโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ที่เกิดเหตุบนถนนจุดกลับรถข้างสะพานต่างระดับอยุธยา ความสูงประมาณ 6-7 เมตร พบผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ นายสมพงษ์ หวังประเสริฐ อายุ 55 ปี ชาว อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา สภาพนอนคว่ำหน้ากลางถนน บาดแผลฉกรรจ์บริเวณศีรษะ เลือดไหลออกมาจำนวนมาก แขนขาหัก เจ้าหน้าที่ต้องเร่งทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น จากนั้นเคลื่อนย้ายนำส่งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา

ตรวจสอบบนสะพานต่างระดับ พบรถจักรยานสีแดง สภาพพังเสียหายล้มอยู่ บนถนนพบกันชนหน้าของรถฮอนด้า สีขาว พร้อมแผ่นป้ายทะเบียน กรุงเทพมหานคร ตกอยู่ ส่วนรถหลบหนีไปก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ยังพบ รถกระบะอีซูซุ สีขาว ทะเบียน ขก 488 พระนครศรีอยุธยา สภาพด้านท้ายกระบะมีรอยถูกชนเสียหายอีกคัน จึงเก็บและบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

สอบถาม นายธนวัฒน์ พันเพ็ง อายุ 30 ปี คนขับรถยนต์กระบะ เบื้องต้นทราบว่า ขับรถมากับภรรยา จากอำเภออุทัย มุ่งหน้าเข้าเกาะเมือง พอถึงกลางสะพานต่างระดับ มีรถฮอนด้าสีขาววิ่งตามหลังมาพุ่งชนรถจักรยาน จากนั้นเสียหลักมาชนท้ายรถของตนอย่างแรงจนรถหมุน ส่วนรถฮอนด้า จอดสักพักแล้วมีชายลงมาจากรถ ตนกำลังจะเดินไปพูดคุย แต่ชายคนดังกล่าว รีบขึ้นรถพร้อมกับหันมาโบกมือบ๊ายบาย แล้วขับรถหลบหนีไป ตนจะหันไปดูคนเจ็บแต่ไม่พบ เห็นเพียงรถจักรยาน กระทั่งมาพบร่างกระเด็นตกลงไปจากทางต่างระดับ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยเหลือ

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า ได้ช่วยติดตามรถฮอนด้าคันก่อเหตุและควบคุมตัวเอาไว้ได้ บริเวณสามแยกไฟแดงตลาดแกรนด์ ห่างจากจุดเกิดเหตุมาประมาณ 1 กิโลเมตร สภาพบริเวณด้านหน้าพังเสียหาย กระจกหน้ารถแตก ถุงลมนิรภัยทำงาน โดยมีชายอายุประมาณ 50-60 ปี เป็นคนขับ สังเกตเบื้องต้นพบว่า พูดจาวกไปวนมาคล้ายอยู่ในอาการมึนเมา บอกว่าไม่ได้ชนใคร แต่จะรับผิดชอบทั้งหมด

นายจักรพงศ์ เพชรชูพงศ์ อายุ 32 ปี พลเมืองดีที่ขี่รถจักรยานยนต์ตาม บอกว่า ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาเห็นมีอุบัติเหตุอยู่กลางสะพาน แล้วเห็นรถเก๋งคันก่อเหตุขับหนีลงไปจากสะพาน จึงได้ขี่ จยย. ไล่ตาม พร้อมตะโกนบอกให้คนขับรถหยุดรถ แต่คนขับไม่ยอมหยุดขับรถ ทั้งที่ถุงลมนิรภัยยังดันปิดหน้าคนขับอยู่ จนรถไปจอดอยู่ตรงสามแยกสัญญาณไฟจราจรตลาดแกรนด์ จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจมาควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป