เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ที่สำนักงานเดลินิวส์ กรุงเทพฯ นางประพิณ รุจิรวงศ์ นายปารเมศ เหตระกูล และนางสิริวรรณ พันธุ์ปรีชากิจ กรรมการบริหาร หนังสือพิมพ์เดลินิวส์และเดลินิวส์ออนไลน์ ต้อนรับคณะผู้บริหาร เครือมติชน นำโดย น.ส.ปานบัว บุนปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) นายปราปต์ บุนปาน รองกรรมการผู้จัดการสายเทคโนโลยีและดิจิทัลมีเดีย บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ในโอกาสร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เรื่องสำรวจความคิดเห็นของประชาชนกับการเลือกตั้งปี 2566 ระหว่างเครือเดลินิวส์ กับเครือมติชน โดยมีวิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และบริษัท ยูนิกเดฟ จำกัด เป็นพยานในการลงนามสำคัญในครั้งนี้

ภายในงานมีตัวแทนจาก 5 กองบรรณาธิการ ประกอบด้วย กองบรรณาธิการเดลินิวส์ กองบรรณาธิการมติชน กองบรรณาธิการข่าวสด กองบรรณาธิการประชาชาติธุรกิจ และกองบรรณาธิการมติชนสุดสัปดาห์ รวมถึง ผศ.อัครพงษ์ ค่ำคูณ คณบดีวิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และ นายศุภกร รวยวาสนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิกเดฟ จำกัด ผู้ให้บริการระบบซิสเต็ม เอ็นจิเนียร์ และไอทีโซลูชั่นชั้นนำ เข้าร่วมงานด้วย

สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ เกิดจากแนวความคิดร่วมกันของผู้บริหารในเครือมติชนและเดลินิวส์ สื่อชั้นนำของประเทศ ที่มีกลุ่มคนอ่านและผู้ติดตามทั้งในสื่อหนังสือพิมพ์ สื่อออนไลน์ และสื่อโซเชียลมีเดียเป็นจำนวนมากหลายสิบล้านคน ต้องการสำรวจความเห็นของประชาชน ผู้อ่าน ผู้ติดตามสื่อออนไลน์ และสื่อโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับการเลือกตั้งในปี 2566 ในประเด็นสำคัญ เช่น ความตั้งใจในการออกมาใช้สิทธิใช้เสียง การเลือกพรรคการเมือง และผู้ที่เหมาะสมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่าการทำโพลในครั้งนี้ จะสะท้อนความคิดเห็นของผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้อย่างชัดเจนมากที่สุด เพราะสำรวจผ่าน 5 ช่องทางหลัก ที่ครอบคลุมทุกท่านทั่วประเทศ คือ เดลินิวส์ออนไลน์ มติชนออนไลน์ ข่าวสดออนไลน์ ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ มติชนสุดสัปดาห์ออนไลน์

นางประพิณ รุจิรวงศ์ กรรมการบริหาร นสพ.เดลินิวส์ และเดลินิวส์ออนไลน์ กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณเครือมติชน สถาบันปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และบริษัท ยูนิกซ์เดฟ จำกัด ที่ได้เข้าร่วมกับเดลินิวส์ ในการจัดทำโพลเลือกตั้งปี 2566 นี้ เดลินิวส์เป็นสื่อมวลชนที่อยู่คู่สังคมไทยมายาวนาน ปีนี้ก็จะครบ 59 ปีแล้ว และจะเข้าสู่ปีที่ 60 ในวันที่ 28 มีนาคม 2566 นี้ เราเป็นสื่อที่สังคมให้ความเชื่อถือ นำเสนอข่าวและความจริงให้ประชาชนในสังคมได้รับทราบดังคำกล่าวที่ว่า อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์ เรามีการพัฒนาตัวเองและปรับตัวเองให้เท่าทันโลกและเทคโนโลยีที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค เรายังคงยึดมั่นที่จะยังผลิตข่าว งานเขียนคุณภาพในสื่อสิ่งพิมพ์ ควบคู่กับการนำเสนอในแพลตฟอร์มออนไลน์ทุกรูปแบบ ต่างมีข่าว มีรายงานข่าวคุณภาพ นำเสนอครบถ้วน ในการร่วมมือครั้งนี้ ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของสังคมสื่อบ้านเรา ซึ่งทุกคนจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ได้จากกลุ่มผู้อ่านของทั้ง 2 ค่ายใหญ่แน่นอน จะมีการนำเสนอข่าวสารที่ครบถ้วนในเชิงสร้างสรรค์ สร้างมิติใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นกับสังคม นอกจากนี้ ยังจะมีความร่วมมืออื่นๆ ที่เดลินิวส์และเครือมติชน จะได้ทำร่วมกันอีกในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย

นายปารเมศ เหตระกูล กรรมการบริหาร หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ และเดลินิวส์ออนไลน์ กล่าวว่า เราเป็นองค์กรสื่อครบวงจรที่มีการจำหน่ายหนังสือพิมพ์ทั่วประเทศไทย เป็นที่ยอมรับของประชาชนคนไทยทั้งประเทศมายาวนาน มีบุคลากรด้านสื่อสารมวลชนที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในสนามข่าวในทุกประเภทข่าว รายงานทุกพื้นที่ทั่วไทย และในสนามเลือกตั้งครั้งนี้ เราได้เตรียมความพร้อมผู้สื่อข่าวไว้ทั่วประเทศ เพื่อรายงานข่าวเกาะติดทุกเขตทุกพื้นที่อย่างรวดเร็วด้วย การร่วมมือในครั้งนี้ กับเครือมติชน ต้องขอขอบคุณผู้บริหารเครือมติชน กอง บก. ของทุกแพลตฟอร์ม และเครือข่ายที่เข้ามามีส่วนร่วมด้วยกัน เพื่อทำโพลเลือกตั้งปี 2566 ให้มีผลออกมาได้อย่างแม่นยำมากที่สุด ด้วยการออกเสียงแสดงความคิดเห็นจากกลุ่มผู้อ่านของเดลินิวส์และเครือมติชน ซึ่งเราเชื่อว่าจะเป็นแรงผลักดันให้เห็นการเมืองในอนาคตได้ แนวทางการแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้องของประชาชน รวมถึงการก้าวข้ามความขัดแย้งต่างๆ และท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณผู้บริหารมติชนอีกครั้ง รวมถึงทุกๆ ท่านที่เข้ามามีส่วนร่วมในโปรเจกต์นี้ และอีกไม่นาน ทางเดลินิวส์กับเครือมติชน จะมีการทำกิจกรรมอื่นๆ ร่วมกันอีกแน่นอน

นายปราปต์ บุนปาน รองกรรมการผู้จัดการสายเทคโนโลยีและดิจิทัลมีเดีย บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โพลที่จัดทำร่วมกัน จะเป็นโพลซึ่งมีความเรียบง่ายด้วยชุดคำถามทั้ง 2 คำถาม และแม้จะไม่ใช่โพลลงรายละเอียดถึงระดับเขต แต่ในฐานะสื่อ โพลที่ทำร่วมกันน่าจะสะท้อนให้เห็นถึงกระแสภาพรวม ภาพกว้าง ช่วยคาดคะเนผลการเลือกตั้ง 2566 ที่จะเกิดขึ้นได้ ผลประโยชน์ในการวิเคราะห์การเลือกตั้ง อาจจะวิเคราะห์ในส่วนปาร์ตี้ลิสต์ได้ (ส.ส.บัญชีรายชื่อ) จุดเด่น คือ กลุ่มผู้บริโภคซึ่งมีความกว้างขวาง เพราะความหลากหลายของผู้อ่านของทั้งสองเครือ เราจะได้ข้อมูลที่กว้างขวางในเชิงคุณภาพ ซึ่งที่ผ่านมา มติชนเคยทำโพลการเมืองจริง แต่มีข้อจำกัด เนื่องด้วยความเบี่ยงเบนก็จะเทไปที่ค่านิยมแบบหนึ่ง แต่พอผนึกร่วมกับเดลินิวส์ มันเกิดความกว้างขวางและครอบคลุมทุกความเป็นไปได้ และหลังทำโพลสองครั้ง ทั้งในช่วงต้นเดือนเมษายน และกลางเดือนมเษายน จากนั้นในช่วงปลายเดือนเมษายน จะมีเวทีสเปเชียลฟอรั่ม ซึ่งผลสำรวจความคิดเห็น จะได้รับการวิเคราะห์โดยทีมนักวิชาการจากวิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ และสื่อมวลชนด้วย เพื่อคาดการณ์ คาดคะเน อนาคตการเมืองไทยต่อไป

ขณะที่ น.ส.ปานบัว บุนปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ณ จุดนี้ต้องมีความเชื่อมั่นในการทำโพลครั้งนี้ ทางเครือมติชนมีความตั้งใจที่จะทำเรื่องโพล และเมื่อได้มาร่วมมือกับเครือเดลินิวส์ เราจึงต้องสำรวจโพลให้รอบด้านมากขึ้น เพราะที่ผ่านมา มันมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย อาทิ การเปลี่ยนแปลงเขตการเลือกตั้งการเปลี่ยนแปลงของนิวโหวตเตอร์ มิติปัญหา ผลกระทบ และสิ่งเหล่านี้ มันเป็นความซับซ้อนจากการเลือกตั้งทั้งสิ้นการทำโพลครั้งนี้ของทั้ง 2 เครือยักษ์ใหญ่ จึงเชื่อว่าจากนี้ กองบรรณาธิการของทั้ง 5 โต๊ะ ล้วนมีศักยภาพที่จะนำผลไปวิเคราะห์เสนอต่อ และจะสามารถสะท้อนผลหรือภาพได้อย่างชัดเจน เนื่องจากคนอ่านหลายสิบล้านคนของทั้งสองเครือ และยังเชื่อว่าหลังจากนี้ จะได้รับความร่วมมือจากอีกหลายสถาบัน เพื่อเข้ามามีส่วนร่วมวิเคราะห์ผลการเลือกตั้งล่วงหน้า

ด้าน ผศ.อัครพงษ์ ค่ำคูณ คณบดีวิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่ได้เห็นความร่วมมือกันของสองค่ายยักษ์ใหญ่ ทั้งเครือเดลินิวส์และเครือมติชน เป็นสัญญาการเปลี่ยนโฉมที่ทั้งสองเครือร่วมกันจับมือทำโพลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน อย่างไรก็ตาม ในฐานะนักวิชาการ ต้องขอชื่นชมสำหรับการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ เนื่องจากโพลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนนั้นเป็นวิทยาศาสตร์ สามารถสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนได้ นอกจากนี้ สังคมของเราเมื่อมีการเลือกตั้ง สองคำถามที่ตามมา คือ บุคคลใดกับพรรคใด แม้การตั้งคำถามดูเหมือนจะง่าย แต่ผลลัพธ์ย่อมมีผลในทางวิชาการ ซึ่งในฐานะสื่อสารมวลชนและนักวิชาการ ไม่ว่าผลสำรวจจะเป็นอย่างไร เราก็จะต้องซื่อตรงต่อผล ไม่บิดเบือนต่อผลสำรวจ หรือถ้าสังคมจะกลับไปเลือกอำนาจนิยมหรือเสรีนิยม ก็ต้องยินดี

ผศ.อัครพงษ์ กล่าวอีกว่า ต้องยอมรับว่านิวโหวตเตอร์ (New Voters) มีจำนวนเพิ่มขึ้นในแต่ละปี เฉลี่ยปีละ 900,000-1,000,000 คน ถึงแม้จะไม่เยอะเท่าจำนวนเจเนอเรชั่นเก่า แต่ตัวเลขเหล่านี้สำคัญ เราจะทำอย่างไรที่จะทำให้นิวโหวตเตอร์มองเห็นภาพของการเลือกตั้ง และแม้พรรคการเมืองเก่า หรือ พรรคการเมืองใหม่จะชนะไม่เด็ดขาด เราก็ต้องทำให้ทั้งสองฝ่ายอยู่ร่วมกันให้ได้ เพราะจิตวิญญาณของประชาธิปไตย คือการเคารพซึ่งกันและกัน

นอกจากนี้ เรายังได้รับความร่วมมือจากนักวิชาการจากทั่วโลก และอาจารย์ชาวไทยที่มีชื่อเสียงและผลงานด้านวิชาการ อาจารย์จากต่างประเทศ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในทางวิชาการเราจะต้องเข้มข้น ทั้งสื่อมติชนและเดลินิวส์ ทำให้เห็นภาพการเลือกตั้งว่า จะนำพาประเทศไทยไปสู่ความมั่นคงถาวรได้

ด้าน นายศุภกร รวยวาสนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิกเดฟ จำกัด กล่าวว่า เราจะจัดทำทั้งแบบจีโอกราฟิกและไบโอกราฟิกว่า นอกจากนี้ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อินเทอร์เน็ตเข้าถึงประชาชนมากๆ ซึ่งในภาพของผลที่ได้จะมีประโยชน์ ทำให้เห็นได้ว่าพื้นที่ใดที่ประชาชนเข้าถึงการเลือกตั้งและเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ต และโพลยังจะทำให้ทุกคนตื่นตัวในการเลือกตั้ง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าระบบที่ได้พัฒนาขึ้นมา จะช่วยป้องกันการถูกโจมตี หรือ ถูกแฮก และที่สำคัญต้องได้ผลโพลที่แม่นยำ

ทั้งนี้ เครือเดลินิวส์กับเครือมติชน จะร่วมมือกันในการทำโพล 2 รอบ ในหัวข้อ “เลือกพรรคใด เลือกใครเป็นนายกฯ” รอบที่ 1 มีระยะเวลาเปิดโหวตบนแพลตฟอร์มออนไลน์ในช่วงต้นเดือนเมษายน ส่วนรอบที่ 2 มีระยะเวลาเปิดโหวตบนแพลตฟอร์มออนไลน์ในช่วงกลางเดือนเมษายน หลังจากนั้น ผู้เชี่ยวชาญจะร่วมกันวิเคราะห์ เพื่อให้สื่อในเครือมติชน-เครือเดลินิวส์ นำเสนอข่าวต่อไป นอกจากการทำโพล เครือมติชน-เครือเดลินิวส์ ยังจะให้ความร่วมมือในการจัดเวทีสเปเชียลฟอรั่ม โดยร่วมกันวิเคราะห์เจาะลึกปรากฏการณ์ “ผลโพลเลือกตั้ง 66 เครือมติชน X เดลินิวส์” ในช่วงปลายเดือนเมษายน ณ อาคารสำนักงานมติชน อีกด้วย.