เมื่อวันที่ 3 เม.ย.  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์ในการสมัครเลือกตั้งส.ส. ได้นัดหมายผู้สมัคร ส.ส.กทม. ทั้ง 33 คน ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่เวลา เวลา 05.00 น. จากนั้น นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ดูแลกทม. น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานนวัตกรรมการเมือง และนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานกทม. ได้นำคณะผู้สมัคร ส.ส.กทม. ร่วมตัวขึ้นรถบัสพลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวี เดินทางมาสมัครรับเลือกตั้งที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร ไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ถนนมิตรไมตรี โดยเมื่อคณะผู้สมัครส.ส.กทม. ของพรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 33 คน มาถึงนายสุชัชวีร์และน.ส.วทันยา ได้ขับรถสกู๊ตเตอร์พลังงานไฟฟ้านำเข้าศูนย์เยาวชนฯ ขณะที่มีผู้สมัครบางคนขี่รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ตามมาด้วยเช่นกัน จากนั้นทั้งหมดลงเดินเท้า เข้าไปใช้ปากเดินทางมาถึงสถานที่รับสมัครเป็นพรรคการเมืองแรก

ทั้งนี้ นายองอาจ ให้สัมภาษณ์ถึงความมั่นใจว่าในพื้นที่กทม. พรรคประชาธิปัตย์จะได้รับชัยชนะ และพร้อมผลักดันการแก้ไขปัญหาฝุ่นพีเอ็ม 2.5  และผลักดันอากาศสะอาด ทั้งนี้ ยังได้ถ่ายรูปร่วมกันระหว่างผู้สมัครและทีมกทม. ส่วนนายสุชัชวีร์ ก็ได้แสดงความมั่นใจเช่นกันว่านโยบายของพรรค ที่ผ่านกระบวนการฟังคิดทำตอบโจทย์ประชาชน

ต่อมา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมาถึงในเวลา 07.30 น โดยให้สัมภาษณ์ว่า มั่นใจที่พรรคจะได้สส.ของกทม. ในครั้งนี้ รวมถึงจะได้สส.เพิ่มในอีกหลายจังหวัดด้วย เพราะสิ่งที่ทำการบ้านมาตลอด 4 ปี มั่นใจว่ามีความคืบหน้ามาก ขณะเดียวกันเสียงตอบรับจากประชาชนดีขึ้นเป็นลำดับ

เมื่อถามว่าการเลือกตั้งครั้งนี้กับการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 แตกต่างกันอย่างไร นายจุรินทร์ กล่าวว่า ครั้งที่แล้วเป็นการเลือกตั้งแบบบัตรใบเดียว และมีการแข่งขันของ 2 ขั้วอย่างรุนแรง แต่การเมืองในวันนี้แตกต่างกันเพราะไม่ใช่เป็นการแข่งขันแค่ 2 ขั้ว อย่างเอาเป็นเอาตาย โดยเป็นการแข่งขันของพรรคการเมืองหลายๆพรรค ซึ่งเป็นไปตามระบบรัฐสภา เพราะฉะนั้นเมื่อผลการเลือกตั้งออกมา รวมเสียงแล้วพรรคการเมืองใด ขั้วใด รวมเสียงสส. ได้มากที่สุดจะได้เป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาล ส่วนฝ่ายที่ได้เสียงสส.น้อยก็เป็นฝ่ายค้านในการตรวจสอบรัฐบาลต่อไป ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้ ตนคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์มีโอกาสเพราะพรรคลงมาแข่งขันในวิถีประชาธิปไตย ซึ่งถ้าประชาธิปัตย์ได้สส.มากกว่าพรรคการเมืองอื่นหรือสามารถรวบรวมเสียงสส.จากพรรคต่างๆได้เป็นจำนวนมาก เราก็จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และยังมั่นใจว่าคุณสมบัติการเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่แพ้ใคร

เมื่อถามว่าคาดหวังกับผู้สมัครส.สทั้ง 400 เขตเลือกตั้ง อย่างไร นายจุรินทร์ กล่าวว่า มั่นใจจะได้สส. มากขึ้นกว่าเดิมพอสมควร เราประเมินนับนิ้วกันทุกวัน ซึ่งทั้งตน เลขาธิการพรรค และผู้บริหารพรรค ก็มั่นใจว่าขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์กำลังเดินขึ้นและจะได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนมากขึ้นด้วย

เมื่อถามต่อว่าจะได้ส.ส.มากกว่าเดิมหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่อยากตอบ เพราะขึ้นอยู่กับมือของประชาชนเป็นผู้เลือก.