เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และแจ้งรายชื่อบุคคลที่พรรคการเมืองมีมติจะเสนอสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามที่ กกต. ประกาศจะเปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 4-7 เม.ย. นี้ โดยบรรยากาศการรับสมัครเป็นไปอย่างคึกคัก ตั้งแต่ช่วงเช้ามืด สมาชิกและกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคการเมือง ต่างเดินทางมาพร้อมดอกไม้ ป้ายหาเสียง เพื่อให้กำลังใจพรรคของตน ด้วยหวังว่าหัวหน้าพรรคจะจับสลากได้หมายเลขประจำพรรคที่เป็นเลขมงคลหรือเลขสวย ที่จะทำให้ง่ายต่อการหาเสียง โดยมีการจัดสถานที่ให้กลุ่มผู้สนับสนุนพรรคการเมือง อยู่บริเวณลานช้าง ด้านหลังอาคารไอราวัตพัฒนา ที่เป็นสถานที่รับสมัคร และบริเวณโดยรอบอาคาร มีการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประจำเป็นจุดๆ เพื่อรักษาความเรียบร้อย และทุกประตูทางเข้าออกของอาคาร มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่กองร้อยควบคุมฝูงชนคอยดูรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งบรรยากาศเริ่มคึกคักมากขึ้น เมื่อนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ มาพร้อมไม้กวาด อ้างว่า ต้องการมอบให้กับหัวหน้าพรรคการเมือง เนื่องจากการเมืองสกปรก มีพรรคการเมืองที่ชูนโยบายกัญชามอมเมาประชาชน และซื้อขายตัว ส.ส. ถึงเขตละ 60 ล้าน จำนวน 85 คน หากได้รับเลือกตั้งเข้าไป จะทำให้บ้านเมืองล่มจม นายชูวิทย์ยังได้เดินพบปะพูดคุยหัวหน้าพรรค และแกนนำพรรคต่างๆ สอบถามถึงแนวทางในการร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองหนึ่ง

ขณะที่ด้านในอาคารไอราวัตพัฒนา มีการกำหนดให้ตัวแทนพรรคการเมืองที่จะสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ และแจ้งรายชื่อบุคคลที่พรรคการเมืองมีมติจะเสนอสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี เข้าได้ภายในอาคาร พรรคละไม่เกิน 5 คน โดยมีตัวแทนพรรคการเมืองทยอยเดินทางมาลงเวลากันตั้งแต่ช่วงเช้ามืด โดยพรรคการเมืองแรกที่มาลงเวลาคือ พรรคเพื่อชาติไทย ลงเวลา 05.49 น. ขณะที่ห้องรับสมัครมีการจัดพื้นที่ แบ่งเป็น 4 จุด ประกอบด้วย จุดที่ 1 รับลงเวลา จุดที่ 2 ตรวจรับเอกสารและหลักฐาน จุดที่ 3 ชำระเงินค่าสมัคร และจุดที่ 4 ออกใบรับสมัคร ขณะที่บริเวณนอกห้องรับสมัคร มีการจัดพื้นที่ไว้ให้ผู้แทนพรรคการเมืองจัดเตรียมเอกสาร และมีฝ่ายกฎหมายให้คำปรึกษา และเป็นพื้นที่ทำงานของสื่อมวลชน โดยมีการจัดเตรียมโทรทัศน์วงจรปิด ถ่ายทอดการสมัครและจับสลากหมายเลขประจำพรรคจากห้องรับสมัครออกมาให้สื่อมวลชนได้รับทราบ เนื่องจากมีการจำกัดจำนวน สื่อเข้าห้องรับสมัครเพียงสำนักละ 1 คนเท่านั้น

ทั้งนี้ ในขั้นตอนการรับสมัคร กรณีมีพรรคการเมืองยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพร้อมกันก่อนเวลา 08.30 น. เลขาธิการ กกต. จะมีการประชุม หัวหน้าพรรคการเมือง หรือกรรมการบริหารพรรคการเมืองที่ได้รับมอบหมายฯ เพื่อตกลงกำหนดลำดับการยื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง หากไม่สามารถตกลงกันได้ ประธาน กกต. หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจะดำเนินการจับสลาก โดยการจับสลากจะแบ่งเป็น 2 รอบ คือ 1.ประธาน กกต. หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย เป็นผู้จับสลาก ชื่อพรรคการเมืองที่ถูกจับมาเป็นลำดับแรกจะถือว่าพรรคการเมืองนั้นเป็นผู้มีสิทธิจับสลากลำดับในการยื่นใบสมัครก่อน  2. การจับสลากครั้งที่สอง หัวหน้าพรรคการเมือง หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจะทำการจับสลากหมายเลขลำดับการยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัคร ซึ่งได้หมายเลขใดก็จะถือว่าเป็นหมายเลขประจำพรรคที่ใช้ในการหาเสียง แต่ทั้งนี้หากในขั้นตอนการตรวจรับเอกสารและหลักฐาน พบว่าพรรคการเมืองใดมีปัญหาเกี่ยวกับเอกสารการสมัคร อาจจะต้องมีการคืนใบสมัคร ซึ่งจะส่งผลต่ออันดับการยื่นใบสมัครจากการจับสลาก ที่อาจจะขยับจากอันดับเดิมได้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เดินทางถึงอาคารไอราวัตพัฒนา ด้วยรถเบนซ์ส่วนตัว หมายทะเบียน ญค 1881 กรุงเทพมหานคร โดยสวมเสื้อสูทสีกรม พร้อมห้อยบัตรที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกให้ ด้วยสีหน้าเรียบเฉย มีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรคฯ และแกนนำพรรคฯ รอต้อนรับ ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีสีหน้าเรียบเฉย เอามือลูบศีรษะ และจับบัตรที่ห้อยคอตลอดเวลา ระหว่างทางเมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า มีความมั่นใจแค่ไหน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ฉันก็ต้องมั่นใจสิ และขอขอบคุณทุกกำลังใจ และขอให้กำลังใจกลับไปทุกคน ขอบคุณนะจ๊ะ” เมื่อถามว่าอยากได้เบอร์ไหนเป็นพิเศษ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ตอบคำถามดังกล่าว แต่ยกมือ 2 นิ้ว เป็นสัญลักษณ์สู้  ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์  หันไปกล่าวขอบคุณแฟนคลับที่ไปให้กำลังใจว่า “บรรยากาศก็ดี ขอบคุณนะจ๊ะ วันนี้จะพยายามทำให้ดีที่สุด”

ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมแกนนำพรรค เดินทางมาสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ โดย พล.อ.ประวิตร ชูมือสองข้างทักทายกองเชียร์และสื่อมวลชน จากนั้นได้เดินขึ้นบันไดมายังหน้าอาคารไอราวัตพัฒนา พร้อมกำหมัดข้างขวาขึ้น เพื่อแสดงสัญลักษณ์ว่าสู้ๆ ผู้สื่อข่าวถามว่า ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อครั้งแรกเป็นอย่างไร พล.อ.ประวิตร ยิ้มแต่ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามว่า เหนื่อยหรือไม่วันนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นนักการเมืองก็ต้องเข้มแข็ง เราต้องทำตามหน้าที่ เมื่อถามว่า พร้อมเป็นนายกฯ หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็ต้องเลือกๆ ทั้งนี้ มีช่วงหนึ่ง ผู้สื่อข่าวพยายามรุมกันยิงคำถาม พล.อ.ประวิตร จึงได้ขอความร่วมมือให้สื่อมวลชนนั่งลง เพื่อให้ได้ภาพกันทุกคนว่า “นั่งลงก่อนครับ ข้างหลังจะได้ภาพเหมือนกัน” เมื่อถามว่า คาดหวัง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์กี่ที่นั่ง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ประมาณ 20 ที่นั่ง 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ลักษณะท่าทางของ พล.อ.ประวิตร ในวันนี้ มีท่าทางแข็งแรง สดชื่นอารมณ์ดี และเดินโดยไม่มีคนประคองแต่อย่างใด 

ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนจับสลากหมายเลขพรรคว่า เมื่อคืนนอนหลับสบายดี ทุกอย่างได้เตรียมการไว้นานแล้ว ซึ่งเป็นไปตามแผน เมื่อถามว่า อยากได้หมายเลขอะไร นายอนุทิน กล่าวว่า หมายเลขในใจนั้น อะไรก็ได้ เพราะเราขายผู้สมัครและขายนโยบาย ขายความทุ่มเทและความตั้งใจในการทำงาน เมื่อถามถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง เดินทางมาที่นี่ ยืนยันว่าไม่ได้มีการมาป่วน แต่จะมาจับจ้องนายอนุทินโดยเฉพาะนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นสีสัน ก็เจอกันเป็นประจำอยู่แล้วไม่มีปัญหา ส่วนวันนี้ถ้าเจอหน้ากันก็ไม่เป็นกังวล เพราะรู้จักกันมาเป็น 10 ปี มันไม่มีอะไร เพราะว่าเราทำตามหน้าที่ ก็ขออนุมาโมทนาบุญ เพราะว่าท่านจะทำบุญใหญ่ เราต้องยอมให้เขาแสดงบทบาทอยากการกระทำ ส่วนจะมีอะไร เราก็ต้องไปแก้ต่างและแก้ไข