เมื่อวันที่ 4 เม.ย. กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เผยแพร่ผลพยากรณ์โรครายสัปดาห์ ประจำสัปดาห์ที่ 2-8 เม.ย. โดยระบุว่า จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค สถานการณ์โรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีน พบว่า สถานการณ์โรคไอกรน ในปี 2565 ที่ผ่านมา พบผู้ป่วย 19 ราย กลุ่มที่มีอัตราป่วยสูงสุด ได้แก่ 0-4 ปี รองลงมาคือ 45-54 ปี และ 25-34 ปี ตามลำดับ ล่าสุดในช่วงต้นปี 2566 พบผู้ป่วยแล้ว 4 ราย กลุ่มที่มีอัตราป่วยสูงสุด ได้แก่ 0-4 ปี รองลงมาคือ 7-9 ปี และอายุต่ำกว่า 65 ปี และจากการตรวจสอบข่าวการเฝ้าระวังเหตุการณ์ในช่วงต้นปี 2566 นี้ พบผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์รายงานสงสัยโรคคอตีบแล้ว 10 เหตุการณ์ ดังนั้น จึงคาดว่าช่วงนี้มีโอกาสจะพบผู้ป่วยโรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนเพิ่มขึ้น เนื่องจากความครอบคลุมของการได้รับวัคซีนลดลง จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้ในบางพื้นที่เด็กอาจยังไม่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์

ทั้งนี้ โรคคอตีบ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย C. Diphtheria ติดต่อกันได้โดยง่ายผ่านทางการไอ จาม หรือสัมผัสกับสารคัดหลั่งหรือสิ่งของเครื่องใช้ของผู้ป่วย นับเป็นโรคติดต่อที่เกิดขึ้นเฉียบพลันและร้ายแรง อาการของโรคจะแสดงหลังจากการติดเชื้อประมาณ 2-5 วัน ผู้ป่วยจะมีไข้สูง หนาวสั่น มีน้ำมูก เจ็บคอ คออักเสบ กลืนอาหารลำบาก รู้สึกเจ็บเวลากลืน คอบุ๋ม หอบ หายใจลำบาก หากอาการรุนแรงมากอาจทำให้หายใจไม่ออก จนเป็นอันตรายถึงชีวิต หากตรวจคออาจพบแผ่นฝ้าสีขาวปนเทาขึ้นบริเวณลำคอ ต่อมทอนซิล หรือลิ้นไก่ อาจพบภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และเส้นประสาทอักเสบ

ส่วนโรคไอกรน เป็นโรคติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย B. pertussis ทำให้มีการอักเสบของเยื่อบุทางเดินหายใจ ติดต่อกันได้ง่ายจากการไอ จาม สัมผัสกับสารคัดหลั่งและเครื่องใช้ของผู้ป่วย ส่วนใหญ่พบการติดเชื้อในเด็ก ซึ่งอาการของโรคไอกรนในเด็กอาจรุนแรงมาก จนทำให้เสียชีวิตได้ อาการของโรคจะแสดงหลังจากได้รับเชื้อประมาณ 6-20 วัน ผู้ป่วยจะมีไข้ต่ำๆ มีน้ำมูก และไอ โดยอาจเป็นต่อเนื่องประมาณ 1 สัปดาห์ จากนั้นจะเริ่มแสดงอาการสำคัญของโรคคือ ไอซ้อนๆ ถี่ๆ ติดกัน 5-10 ครั้งหรือมากกว่านั้น จนทำให้ผู้ป่วยหายใจไม่ทัน จึงหยุดไอ และพยายามหายใจเข้าลึกๆ และมีเสียงดังวู๊ป สลับกับการไอเป็นชุด ทั้งนี้ อาการที่กล่าวมาอาจเป็นเรื้อรังติดต่อกันนานถึง 2-3 เดือน

สำหรับวัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก นับเป็นวัคซีนพื้นฐานที่เด็กทุกคนจำเป็นต้องได้รับ เนื่องจากโรคเหล่านี้เป็นโรคร้ายแรง โดยเฉพาะหากเกิดขึ้นกับเด็กเล็ก ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ ในประเทศไทยได้กำหนดให้เด็กทุกคนฉีดวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2538 ทำให้ลดจำนวนผู้ป่วยลงได้มาก กรมควบคุมโรคจึงขอแนะนำให้ประชาชน นำบุตรหลานไปรับวัคซีนให้ครบตามช่วงเวลาที่กำหนด ตั้งแต่อายุ 2 เดือนขึ้นไป ควรสังเกตอาการของบุตรหลานอย่างใกล้ชิด หากมีอาการดังกล่าวข้างต้น ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422.