เมื่อวันที่ 4 เม.ย. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ คณะกรรมการ ป.ป.ช. นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการ คณะกรรมการ ป.ป.ท. นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ คณะกรรมการ ป.ป.ง. พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษา ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายเฉลิมพล โชตินุชิต รองปลัดกรุงเทพมหานคร ร่วมแถลงข่าวจับกุม เจ้าหน้าที่ระดับสูง สำนักงานเขตราชเทวี

ดำเนินคดีในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 “ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” มาตรา 157 ได้ที่บริเวณลานจอดรถโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้มีบริษัทผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผู้เสียหาย เข้าร้องเรียน บก.ปปป. ว่า ถูกเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตราชเทวี เรียกรับเงิน 3 ล้านบาท อ้างว่าแลกกับการไม่ต้องชำระเงินภาษีโรงเรือนและที่ดินตามจริงจำนวนกว่า 4 ล้านบาท โดยจะเก็บเรื่องดังกล่าวไว้ แต่ทางบริษัทฯ ไม่ยินยอมเนื่องจากยอดภาษีสูงเกินจริง กลับถูกเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตราชเทวี เรียกเงินเพิ่มอีก 500,000 บาท อ้างต้องเแบ่งกรรมการหลายคน สุดท้ายเจรจาต่อรองได้รวม 3,200,000 บาท โดยนัดส่งมอบกันที่ลานจอดรถโรงแรมดังกล่าว

ทางตำรวจ บก.ปปป. จึงประสานเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ป.ป.ท. และ ป.ป.ง. ร่วมวางแผนให้ผู้เสียหายนำเงินหลักฐานไปส่งมอบเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตราชเทวี ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงเป็นผู้ที่ขับรถมารับ ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะแสดงตัวเข้าจับกุมตัวได้คาหนังคาเขา พร้อมเงินของกลางกว่า 3,000,000 ล้านบาท จึงแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าว แต่เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าสิ่งของที่รับมาจากผู้เสียหายนั้นคิดว่าเป็นเอกสาร แต่รับว่ารับสิ่งของดังกล่าวมาจากผู้เสียหายจริง จึงคุมตัวพร้อมของกลางนำส่ง พงส.กก.1 บก.ปปป. ดำเนินการตามกฎหมายพร้อมรวบรวมพยานหลักฐานนำส่งสำนวนให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาตามกฎหมายต่อไป.