เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 8 เม.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีหญิงสาวถูกสามีเอาน้ำร้อนราดใส่ตัวได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ภายในสถานที่ตรวจสภาพรถของเอกชน ปากซอยบางปลา 22 ต.บางปลา อ.บางพลี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จุดบางพลี เดินทางตรวจสอบ บริเวณด้านหลังสถานตรวจสภาพรถ พบ นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี นั่งอยู่ที่ท้ายรถกระบะ ร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด สภาพเนื้อตัวเปียกชุ่มด้วยน้ำและเศษดินโคลน ตามร่างกายพบบาดแผลจากการถูกน้ำร้อนลวกตามร่างกายหลายแห่ง ที่ศีรษะมีบาดแผลจากการถูกตีด้วยของแข็ง เจ้าหน้าที่จึงให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลก่อนนำส่ง รพ.บางพลี
จากการสอบถาม นางเอ เล่าทั้งน้ำตาว่า คนที่ก่อเหตุทำร้ายเป็นสามีของตน ชื่อ นายบี (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี เพิ่งแต่งงานกันได้เพียงปีเศษ สาเหตุที่สามีลงมือทำมาจากเมายาบ้าจนประสาทหลอน ระแวงว่าตนจะมีชายอื่น จึงใช้มีดขู่บังคับให้อยู่ในห้อง และล็อกประตูขังไว้ พร้อมสั่งห้าม หากลุกหนีจะเอามีดแทงให้ตาย ขณะนั้นสามีได้ต้มน้ำกับเตาแก๊สในห้อง บอกว่าจะเอามาเทราดใส่ตน ระหว่างรอน้ำร้อนเดือด สามีคลุ้มคลั่งอย่างหนักใช้ขวดเบียร์ยัดที่อวัยวะเพศแล้วตบกระแทกซ้ำจนตนจุกและเจ็บปวดมาก แต่ยังไม่หนำใจ ใช้ขวดใบเดียวกันตีซ้ำที่ศีรษะจนแตกเลือดไหลแล้วเดินไปเอาน้ำร้อนที่ต้มไว้เดือดๆ มาเทราดตัว ตนปวดแสบปวดร้อนอย่างมาก หลังจากก่อเหตุเสร็จ สามีเดินออกจากห้องไปแล้วล็อกจากด้านนอกขังตนให้นอนทรมานอยู่ภายในห้อง ตนจึงตัดสินใจกระโดดหนีตายลงมาจากชั้น 4 ของห้องเช่า จนหล่นลงมาในป่า กระเสือกกระสนปีนข้ามรั้วสังกะสีมาที่แคมป์พักคนงานที่อยู่ข้างๆ ในซอยถัดไป เพื่อขอให้ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ แต่กลับถูกคนงานในแคมป์ปฏิเสธและไล่ให้ไปขอความช่วยเหลือที่อื่น ตนจึงตัดสินใจกระโดดลงคลองว่ายน้ำข้ามคลองขึ้นอีกฝั่งปีนข้ามรั้วมาขอความช่วยเหลือจากร้านตรวจสภาพรถจนได้รับความช่วยเหลือ
นางเอ เล่าต่อว่า ก่อนหน้าจะมาอยู่กินกัน ตนกับสามีคบกันได้เพียง 9 วัน ก็มาขอตนแต่งงานด้วย จึงตัดสินใจคบหาอยู่กินด้วยกันมา โดยที่ไม่รู้ในตอนแรกว่า ติดยาเสพติด พอแต่งงานอยู่กินกันแล้วถึงได้รู้ธาตุแท้ของสามี ตนพยายามขอเลิกหลายครั้งแต่ก็ถูกขู่ฆ่า ที่ผ่านมาเคยถูกทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง พอเมายาหรืออยากยาขึ้นมาก็มักลงมือทุบตี ครั้งก่อนเคยเอาไฟฟ้าจากหม้อแปลงช็อตปลา มาช็อตตนแล้วครั้งหนึ่ง กระทั่งมาก่อเหตุซ้ำอีกในครั้งนี้ ตนเสียใจที่ไม่เชื่อฟังคำเตือนของแม่ หลังรักษาตัวเสร็จจะขอกลับไปอยู่กับแม่ และจะขอเลิกกันอย่างเด็ดขาด ส่วนเรื่องทางคดียืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และหากวันนี้ตนไม่ตัดสินใจกระโดดลงมาคงถูกขังในห้องนอนทรมานจนตาย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะได้เดินทางไปสอบปากคำนางเอ ที่โรงพยาบาล และจะเชิญตัวมาสอบปากคำอีกครั้ง หลังรักษาตัวจนหายแล้ว นอกจากนี้จะเชิญตัวผู้ก่อเหตุมาสอบสวนที่โรงพักเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
