เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย (มท.1) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เป็นประธานพิธีเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2566 และเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการ ศปถ. ครั้งที่ 1/2566 โดยมีนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.) นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดี ปภ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใยความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานตต์ ประจำปี 66 โดย ศปถ. พร้อมบูรณาการขับเคลื่อนมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในทุกมิติ ภายใต้แนวคิด “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เพื่อให้ประชาชนเดินทางช่วงวันหยุดสงกรานต์อย่างสุขใจกับชีวิตวิถีใหม่ที่ห่างไกลอุบัติเหตุ โดย ศปถ.ได้กำหนดนโยบายให้หน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ซึ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน พี่น้องประชาชนจึงมักเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก

ปีนี้คาดว่าจะมีการเดินทางมากกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนเพิ่มสูงขึ้น จึงได้มอบหมายให้ ศปถ. บูรณการหน่วยงานทุกภาคส่วนขับเคลื่อนการสร้างความปลอดภัยทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2566 ภายใต้แนวคิด “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เพื่อให้ประชาชนเดินทางอย่างสุขใจกับชีวิตวิถีใหม่ที่ห่างไกลอุบัติเหตุ โดยได้กำหนดช่วงควบคุมเข้มข้นระหว่างวันที่ 11-17 เม.ย.66 มุ่งลดปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนน ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ควบคู่กับการอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน ภายใต้แผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลและช่วงวันหยุด ปี 66 ซึ่งมีเป้าหมายลดจำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิต และจำนวนผู้บาดเจ็บ (Admit) ให้ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับสถิติในช่วงเทศกาลเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง

รวมถึงได้กำหนดมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนที่มุ่งลดปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนที่ครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งคน รถ ถนน และสภาพแวดล้อม โดยเน้นการบังคับใช้กฎหมายและกวดขันพฤติกรรมเสี่ยงของผู้ขับขี่อย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุและสร้างวินัยจราจรให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน อีกทั้งคุมเข้มความปลอดภัยของยานพาหนะทุกประเภท ทั้งสภาพรถ อุปกรณ์นิรภัย ความพร้อมของพนักงานขับรถ รวมถึงกวดขันรถกระบะที่บรรทุกน้ำหนักเกินและรถบรรทุกขนาดเล็กที่บรรทุกผู้โดยสารในลักษณะเสี่ยง พร้อมเฝ้าระวังและ ป้องปรามพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการขับรถเร็ว การดื่มแล้วขับ และการไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัยควบคู่กับการดำเนินมาตรการ “ตรวจวัดแอลกอฮอล์” และสร้างการรับรู้เกี่ยวกับมาตรการบังคับใช้กฎหมาย สถานการณ์อุบัติเหตุ การใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยให้กับประชาชนผ่านทุกช่องทางสื่อสาร ตลอดจนจัดหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน หน่วยกู้ชีพกู้ภัย และเครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อมช่วยเหลือ ณ จุดเกิดเหตุ และส่งต่อ ผู้ประสบอุบัติเหตุอย่างรวดเร็วในทุกพื้นที่ เพื่อลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ให้ประชาชนเดินทางอย่างมีความสุขและถึงที่หมายอย่างปลอดภัย

สำหรับการประชุมในวันนี้ ศปถ. ได้มอบหมายให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดและกรุงเทพมหานคร บูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วนขับเคลื่อนกลไกการลดอุบัติเหตุทางถนนตามแผนปฏิบัติการ ในทุกมิติ เน้นการวิเคราะห์ข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดขึ้นในพื้นที่ พร้อมปรับแผนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน รวมถึงบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับพฤติกรรมเสี่ยงหลักที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กฎหมายสุรา และกฎหมายสถานบริการอย่างเข้มงวด พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนในทุกเส้นทาง โดยเน้นการป้องกันและลดความเสี่ยงในบริเวณที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เพื่อลดความสูญเสียจากการบาดเจ็บและความเสียหาย ตลอดจนสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และปลูกฝังจิตสำนึกด้านความปลอดภัยทางถนนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างให้สังคมไทยมีวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนอย่างยั่งยืน

ทางด้าน นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้นำนโยบายของรัฐบาลมาขับเคลื่อนมาตรการลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 66 ผ่านกลไกของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนระดับจังหวัด อำเภอ และองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น โดยกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทำหน้าที่อำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับสถานการณ์อุบัติเหตุทางถนน มุ่งลดปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนน ผ่านกลไกการทำงานในระดับพื้นที่ โดยได้กำชับศูนย์ปฏิบัติการทุกระดับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัคร และจิตอาสา คุมเข้มการลดปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนในรูปแบบของการจัดตั้งด่านชุมชน กลไกด่านครอบครัว ควบคู่กับการดำเนินมาตรการเชิงรุกในรูปแบบการเคาะประตูบ้าน เพื่อเป็นกำลังเสริมสนับสนุนหน่วยงานหลักในพื้นที่

“กระทรวงมหาดไทย ได้เน้นย้ำให้ดูแลความปลอดภัยในการสัญจรและท่องเที่ยวทางน้ำและแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ เพื่อสร้างความปลอดภัยแก่ประชาชน นอกจากนี้ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์คาดว่าอาจจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่ ตามพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา จึงได้แจ้งให้หน่วยงานในพื้นที่เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นไว้ด้วย และขอให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ผู้ใช้รถใช้ถนนให้ระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และอันตรายจากฟ้าผ่าในช่วงที่เกิดพายุฤดูร้อนอีกด้วย” นายสุทธิพงษ์ กล่าว

ขณะที่ นายบุญธรรม กล่าวว่าศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2566 ภายใต้ ศปถ. จะเป็นศูนย์กลางในการอำนวยการ สั่งการ และเชื่อมโยงการแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนกับศูนย์ปฏิบัติการฯ ระดับจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยในช่วงรณรงค์ 7 วันแห่งความปลอดภัยทางถนน ตั้งแต่วันที่ 11-17 เม.ย. จะมีการประชุมร่วมกับ ศปถ. จังหวัด เพื่อติดตามสถานการณ์และวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุในพื้นที่ เพื่อวางมาตรการและปรับแนวทางการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาอุบัติเหตุทางถนนในแต่ละพื้นที่ ซึ่ง ปภ. จะดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงสงกรานต์ ปี 66 และจัดทำข้อมูลสรุปในรูปแบบ Dashboard เพื่อใช้ในการประเมินสถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนและหาแนวทางการแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยทางถนนที่เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนมีปลอดภัยจากอุบัติเหตุทางถนนมากที่สุด

“ศปถ. จะได้แถลงข้อมูลสรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2566 ในวันที่ 12-18 เม.ย. เป็นประจำทุกวันในเวลาประมาณ 11.00 น. ทาง Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM (https://www.facebook.com/DDPMNews)” นายบุญธรรม กล่าว.