เมื่อวันที่ 15 เม.ย. ที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย (พท.) และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึงโพลของเดลินิวส์-มติชน ออกมาว่า พรรคที่ได้ที่ 1 คือพรรค พท. พรรคก้าวไกล ได้ที่ 2 พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้ที่ 3 ส่วนตัวบุคคล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล ได้ที่ 1 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรค พท. และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ได้ที่ 2 และนายเศรษฐาได้ที่ 3 ว่า ถ้าอะไรออกมาไม่ดี เราก็พร้อมรับฟัง แม้จะออกมาดี แต่เราก็พร้อมรับฟังเหมือนเดิม ไม่ได้เปลี่ยนวิธีการทำงานของเรา พรรค พท. เราเอาประชาชนเป็นหลัก เอาประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง

เมื่อถามต่อว่า มองอย่างไรกับผลโพลที่พรรค รทสช. และพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ลำดับรั้งท้ายต่อจากพรรคฝ่ายประชาธิปไตย นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนยังมั่นใจอยู่ว่า อย่างไรก็ตามเสียงฝ่ายประชาธิปไตย โดยเฉพาะพรรค พท. เรามั่นใจในนโยบายของเรา เรามั่นใจในผู้สมัครเราว่าเรามีดี และน่าจะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน

เมื่อถามอีกว่า ผลโพลที่ออกมาจะเห็นว่า พรรค พท. และพรรคก้าวไกล สลับกันตลอด มองว่าพรรคก้าวไกลเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับเราหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนไม่ได้มองพรรคอื่นเป็นคู่แข่ง ตนพูดเสมอต้นเสมอปลายมาว่า คู่แข่งของตนนั้นคือความลำบาก ยากจน ความไม่เท่าเทียมในสังคม เราต้องแย่งกันในการที่จะขยายผลเรื่องนโยบาย ส่วนในพื้นที่เมืองที่พรรคก้าวไกล และพรรค พท. ไล่กันมา เราก็คงไม่แก้อะไร เพราะเราพูดในนโยบายที่เราอยากจะทำ อาจจะมีการเน้นบางนโยบายมากขึ้น.