เมื่อวันที่ 19 เม.ย. พ.ต.ท.กฤชฐา ประทุมแก้ว สว.(สอบสวน) สภ.สามโคก จ.ปทุมธานี รับแจ้งมีผู้เสียชีวิต สาเหตุถูกกระแสไฟฟ้าช็อต ภายในท่อระบายน้ำถนนเลียบทางด่วนอุดรรัถยา (ทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด) หมู่ 1 ต.เชียงรากใหญ่ อ.สามโคก จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสามโคก อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู และแพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม
ที่เกิดเหตุภายในท่อระบายน้ำ ซึ่งเป็นท่อคอนกรีตไม่มีฝาปิด ภายในมีน้ำขังและมีสายไฟฟ้าแรงสูงเดินอยู่ ความสูงจากปากบ่อประมาณ 4 เมตร ภายในท่อระบายน้ำพบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชาย อยู่ในลักษณะจมอยู่ใต้น้ำ โดยที่สายไฟฟ้าขนาดใหญ่ มีร่องรอยการถูกปอกจนเห็นผิวฉนวนหุ้มถลอก และมีร่องรอยการช็อตของกระแสไฟฟ้า เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าต้องทำการตัดระบบกระแสไฟฟ้า ส่งผลให้กระแสไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง พร้อมใช้อุปกรณ์ตรวจเช็กกระแสไฟฟ้าอย่างรัดกุม เพราะสายไฟฟ้านั้นเป็นสายแรงสูง ขนาด 22,000 โวลต์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยลงไปทำการกู้ร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาทำการชันสูตร
ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูต้องใช้เครื่องอัดอากาศและอุปกรณ์กู้ภัยมาใช้ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดกับเจ้าหน้าที่ เพราะภายในอาจจะเป็นพื้นที่อับอากาศ หรือมีแก๊สพิษ ก่อนจะทำการกู้ร่างผู้เสียชีวิตขั้นมาได้ จากการชันสูตรเบื้องต้นพบเป็นชาย 1 ราย อายุประมาณ 30-40 ปี สวมเสื้อสีลาย นุ่งกางเกงยีนสามส่วนสีน้ำตาล สวมรองเท้าแตะ ที่แขนขวามีรอยสักแบบลงสีรูปไอ้มดแดง ขณะที่แขนทั้งสองข้าง ศีรษะและแผ่นหลังมีร่องรอยการถูกกระแสไฟฟ้าช็อตจนไหม้ จากการค้นอย่างละเอียด ไม่มีเอกสารที่ทางราชการออกให้ติดต่อ พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่ได้เดินทางมาตรวจสอบ คาดว่าไม่ใช่บุคคลในพื้นที่
นายสำเริง เนียนทอง อายุ 53ปี รปภ.หมู่บ้านแห่งหนึ่ง กล่าวว่า ขณะที่ตนกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ และกำลังจะไปออกตรวจโดยรอบพื้นที่ มีชาย 1 คน ที่อยู่บนด้านบนท่อตะโกนเรียกตน เพื่อขอความช่วยเหลือชายอีกคนที่อยู่ในบ่อ ตนจึงยื่นไม้ลำยาวให้ เพื่อให้ชายดังกล่าวดึงเพื่อนขึ้นมา โดยไม่คิดว่าทั้งคู่จะมาลักลอบตัดสายไฟฟ้าด้านใน ก่อนจะเกิดการช็อตเสียงดังเกิดขึ้นถึง 3 ครั้ง จากนั้นเพื่อนอีกคนได้ขี่ จยย. สีแดงสภาพเก่าหลบหนีไป จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยมาตรวจสอบ
ด้าน พ.ต.ท.กฤชฐา เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุร่วมกับแพทย์ ถ่ายภาพเป็นหลักฐาน พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาเบาะแสคนร้ายที่ยังหลบหนี พร้อมให้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูนำร่างผู้เสียชีวิตส่ง รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อรอญาติรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป.
