เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ที่วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร ในงาน ‘สงกรานชาวเหนือ’ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย นางนลินี ทวีสิน อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายก และผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย รวมถึง นายดนุพร ปุณณกันต์ คณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร นายประภัสร์ จงสงวน ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ น.ส.กานกนิษฐ์ แห้วสันตติ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. น.ส.ณหทัย ทิวไผ่งาม ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เขตบางรัก, เขตพระนคร, เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย, เขตดุสิต (ยกเว้นแขวงถนนนครไชยศรี), เขตสัมพันธ์วงศ์ น.ส.สกาวใจ พูนสวัสดิ์  ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตลาดพร้าว (ยกเว้นแขวงจระเข้บัว), เขตบึงกุ่ม (ยกเว้นแขวงคลองกุ่ม) และ น.ส.เพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางคอแหลม, เขตยานาวา

โดยหลังพบปะพี่น้องประชาชน และเยี่ยมชมร้านค้าภายในงาน นายสมชาย ได้เป็นประธานในพิธีเปิดงาน ‘สงกรานต์ชาวเหนือ’ พร้อมรับชมขบวนเครื่องสักการะ พร้อมการแสดงรำล้านนา โดยมี นางเยาวเรศ ชินวัตร ประธานสมาคมชาวเหนือแห่งประเทศไทย นายกฤษฏิ์ ชัยศิลบุญ นายกสมาคมชาวเหนือฯ ให้การต้อนรับ ก่อนจะเปิดโอกาสให้ผู้สมัคร ส.ส.กทม. และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ร่วมรดน้ำดำหัวเพื่อรับพร ตามด้วยสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ ภายในพระอุโบสถ

นายสมชาย กล่าวว่า ภาคเหนือมีประเพณีที่ทำกันมา แต่มีประชาชนส่วนหนึ่งที่มาตั้งรกรากอยู่ที่กรุงเทพฯ จึงตั้งเป็นสมาคมขึ้นมาและใช้โอกาสเทศกาลต่างๆ มาพบปะกันซึ่งบรรยากาศวันนี้เป็นไปด้วยความอบอุ่น ดีใจที่เห็นชาวเหนือมาร่วมงาน และถือว่าการจัดงานครั้งนี้คึกคักมากกว่าที่ผ่านมาเนื่องจากต้องงดกิจกรรมจากสถานการณ์โควิด-19 ไป 3 ปี ทั้งนี้ การมาจัดงานที่กรุงเทพฯ ถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์อย่างหนึ่ง และต้องช่วยการประชาสัมพันธ์ ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลก็ต้องเอาสิ่งเหล่านี้มาโชว์ นอกจากจะช่วยประชาชนในภูมิภาคต่างๆ แล้ว ก็ยังมีโอกาสสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว โดยไม่ต้องลงทุนอะไรเพราะชาวบ้านทำเป็นปกติอยู่แล้ว

นายสมชาย ยังอวยพรในโอกาสปีใหม่ของชาวล้านนาเป็นคำเมือง ภาษาถิ่นภาคเหนือ โดยระบุว่า “ชื่นใจที่พี่น้องมาร่วมงานกัน ขอชาวเหนือรักกันตลอดเวลา และให้ทุกท่านได้รับบุญกุศลมีความสุข ความสำเร็จ ความเจริญ ตอนนี้เข้าสู่ยุคใหม่ที่ปราศจากปัญหาข้าวยากหมากแพง ความฝืดเคืองทางเศรษฐกิจ”

วันนี้ตนไม่ได้ตั้งใจมาหาเสียงให้พรรคเพื่อไทย แต่พรรคเพื่อไทยมีผลงานที่ทำให้เห็นและมีความจริงใจ ไม่ได้ต้องการมีอำนาจวาสนา แต่เป็นโอกาสในการมาช่วยบ้านเมือง พรรคเพื่อไทยทำจริงตามที่พูด ไม่ได้รังเกียจพรรคอื่นในการนำเสนอนโยบายเพื่อพัฒนาบ้านเมือง เราชอบทั้งหมด แต่ตนคิดว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะทำได้ ไม่ใช่ทุกพรรคที่จะทำได้ ตนไม่ปรามาสพรรคไหน แต่มั่นใจว่าเพื่อไทยทำได้เพราะเคยทำมาแล้ว และประสบความสำเร็จ

“ผมเสียดายที่เราพลาดโอกาสในการทำประโยชน์ และคิดว่าตอนนี้พรรคเพื่อไทยพร้อมนำสิ่งที่เคยพลาดโอกาสมาสานต่อ แม้ประชาชนจะได้รับประโยชน์ช้าไปบ้าง แต่ไม่สายเกินไป” นายสมชาย กล่าวและว่า ฝากประชาชนเป็นผู้ตัดสิน หากคิดว่าพรรคเพื่อไทย คิดใหญ่ ทำได้จริง ขอให้ช่วยกัน แต่หากคิดว่าไม่ดีเท่าพรรคอื่น ก็ขอให้ใช้สิทธิของตนอย่างเต็มที่ เราไม่ได้กีดกันการแสดงออกใดๆ แค่แสดงความจริงใจให้ได้รับทราบ