เมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พรรคไทยสร้างไทย นำโดย นายปริเยศ อังกูรกิตติ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและประชาสัมพันธ์ นายเจตุบัญชา อำรุงจิตชัย รองโฆษกพรรค นายรณกาจ ชินสำราญ คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ พรรคไทยสร้างไทย พร้อมทีมกฎหมายของพรรค เข้ายื่นฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐ ที่มีส่วนทำให้ค่าไฟฟ้าแพง ต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง

นายปริเยศ เปิดเผยว่า พรรคไทยสร้างไทย ได้รับฟังเสียงและผลกระทบของประชาชนที่สะท้อนอย่างเป็นวงกว้าง หลังจากราคาค่าไฟฟ้าที่แพงขึ้นเกือบ 30% ประกอบกับการติดตามตรวจสอบข้อมูลมาระยะหนึ่งพบว่า การขึ้นค่าไฟฟ้า ไม่ได้มาจากความต้องการในการบริโภคไฟฟ้ามากขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากความผิดพลาดในการบริหารนโยบายด้านพลังงานของผู้มีอำนาจ และพฤติการณ์ที่ส่อว่าจะเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนหลายรายในการอนุมัติสัญญาสัมปทาน และการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่เกินความต้องการของประเทศ ซึ่งสัญญานี้เกิดขึ้นเมื่อสมัย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี การประมูลครั้งนี้ มีคำถามมากมาย ที่มีเอกชนรายใหญ่ได้สัมปทานไปทั้งหมด แต่จนถึงรัฐบาลปัจจุบันบริหารต่อ มองเห็นเป็นไปในทิศทางเดียวกับรัฐบาลก่อนหน้าหรือไม่ ถ้าไม่เห็นด้วย ทำไมถึงไม่แก้ไขค่าไฟที่แพง และจำเป็นจะต้องเร่งเจรจาให้เกิดความเป็นธรรมหรือไม่ ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันมากขึ้น

ดังนั้นในวันนี้ ตนซึ่งเป็นตัวแทนพรรคไทยสร้างไทย จึงได้ยื่นฟ้องผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับพลังงานไฟฟ้าตามพระราชบัญญัติประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2540 และพระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2511 ซึ่งมีหน้าที่ตามกฎหมายในการกำหนดมาตรการเพื่อให้เกิดความมั่นคงและเชื่อถือเกี่ยวกับไฟฟ้า โดยต้องกำหนดปริมาณให้สอดคล้องและใกล้เคียงกับความเป็นจริงตามความต้องการใช้ไฟฟ้าของทั้งประเทศ ในแต่ละช่วงเวลา

อย่างไรก็ตาม การยื่นฟ้องวันนี้ นายปริเยศ ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดว่า เป็นการยื่นฟ้องใครบ้าง เพียงระบุว่า เป็นการฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐ และจะมีการเปิดเผยรายชื่อ เมื่อศาลรับพิจารณาฟ้องคดีดังกล่าว โดยหลังจากนี้ ศาลนัดพิจารณาพยานหลักฐานในวันที่ 8 พ.ค .อีกครั้ง