เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 66 ร.ต.ท.วงศธร มรรคนันท์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุคนร้ายวิ่งราวทรัพย์สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 4 บาท ภายในห้างเพชรทองวนิดา ซอยเนินพลับหวาน ตั้งอยู่เลขที่ 112/60 หมู่ 5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุง พร้อมด้วย พ.ต.ท.กรณ์พงษ์ สุขวิสิฏฐ์ รอง ผกก.สส.ฯ และ พ.ต.ต.สุชาติ สดุดี สวป. จึงนำกำลังตำรวจสายตรวจ และฝ่ายสืบสวน เดินทางไปตรวจสอบทันที

ที่เกิดเหตุพบ นายอุทัย ศรีโรจนากูร อายุ 37 ปี เจ้าของร้านทอง ยืนรอให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีคนร้ายเป็นสาวประเภทสอง รูปร่างสูงใหญ่ แต่งกายสวมเสื้อแขนยาวสีขาวดำ นุ่งกางเกงยีนขายาวสีดำ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบสีดำ ใส่แมสปิดบังใบหน้า ขับขี่รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า Msx สีดำ ทะเบียน 1 กต 5892 ชลบุรี มาจอดบริเวณหน้าร้านทองแล้วเดินเข้ามาถามซื้อเลือกทองคำรูปพรรณหนัก 2 บาท โดยขอดูสร้อยทองคำหนัก 2 บาท จำนวน 2 เส้น รวมทั้งหมด 4 บาท ทดลองสวมใส่

เมื่อสบโอกาสได้วิ่งคว้าทองขึ้นรถ จยย. ที่จอดอยู่หน้าร้านขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยพยายามวิ่งไล่ตามแต่ไม่ทัน ซึ่งเชื่อว่าคนร้ายคงจะขี่รถ จยย.วนดูลาดเลา และอาศัยจังหวะที่พนักงานรักษาความปลอดภัยพักเที่ยงไปรับประทานอาหารอยู่ฝั่งตรงข้ามร้านทอง ประกอบกับประตูที่เปิดอ้าทิ้งไว้ โดยไม่ได้ล็อค เนื่องจากต้องการระบายอากาศภายในร้าน และตัวบ้านที่อยู่ในอาคารเดียวกัน

หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.นาวิน ผกก.สภ.บางละมุง ได้ทำการเก็บหลักฐาน พร้อมตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด พร้อมทั้งได้วิทยุสกัดจับคนร้ายตามเส้นทางที่หลบหนี จนกระทั่งทราบว่า หลังเกิดเหตุไม่ถึง 10 นาที ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้แกะรอย จนไปพบรถ จยย.ที่คนร้ายขับหลบหนีถูกจอดทิ้งไว้ในลาดจอดรถห้างบิ๊กซี พัทยากลาง ก่อนจะเดินขึ้นไปชั้น 2 นำทองที่ได้มาแบ่งออกไปขาย 1 เส้น น้ำหนัก 2 บาท ที่ร้านห้างทองเยาวราชกรุงเทพ สาขาบิ๊กซี พัทยา ก่อนจะหลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด ก่อนที่ตำรวจจะมาถึงเพียงไม่กี่นาที

กระทั่งต่อมา พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุง พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บางละมุง ได้ร่วมจับกุม นายชื่นกมล นาสิงห์ขัน อายุ 30 ปี สาวประเภทสอง ผู้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ พร้อมควบคุมตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ห้างเพชรทองวนิดา

แนวทางการสืบสวนหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภาพวงจรปิดจนได้เบาะแสของคนร้าย ลักษณะเป็นสาวประเภท2 สวมหน้ากากอนามัย สวมเสื้อคลุมสีดำ-ขาว ขับขี่รถจักรยานยนต์ สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 กต 5892 ชลบุรี จึงสืบสวนสอบสวนจนทราบว่า หลังเกิดเหตุ คนร้ายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ ไปที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า พัทยากลาง เพื่อนำสร้อยคอทองคำขายที่ห้างทองเยาวราช กรุงเทพฯ จำนวน 1 เส้น น้ำหนัก 30.40 กรัม (2 บาท) ในราคา 61,380 บาท

ต่อมาได้จอดรถ จยย.ทิ้งไว้ และนั่งรถรับจ้างเดินทางไปห้างเทอร์มินอล 21 พัทยา เพื่อนำสร้อยอีก 1 เส้นที่เหลือไปเปลี่ยนที่ร้านทองออโรร่า โดยได้เปลี่ยนเป็นสร้อยคอหนัก 1 บาท 1 เส้น พระเลี่ยมทอง แหวน 2 วง ต่างหู 1 คู่ รวมมูลค่า 53,170 บาทและเหลือเงินคืนกลับไป 8,200 บาท จากนั้น คนร้ายสาวประเภท 2 รายนี้ ได้เดินทางต่อไปเสริมสวย (ทำสีผม) ที่ร้าน Hair Care Salon สาขาห้างเดอะชิลล์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ติดตามไปจับกุมได้คาร้านเสริมสวยดังกล่าว

จากการสอบถาม พนักงานร้านเสริมสวย เล่าว่า ผู้ต้องหาได้เดินทางเข้ามาที่ร้านเหมือนลูกค้าทั่วไป ไม่แสดงอาการพิรุธ หรือผิดปกติแต่อย่างใด ซึ่งได้สอบถามราคาทำสีผม อีกทั้งยังต่อรองราคาอีกด้วย ซึ่งขณะกำลังเตรียมตัวทำสี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกเข้ามาจับกุมตัว จึงทำให้ทางร้านตกใจ หลังทราบว่า เป็นผู้ต้องหาเพิ่งก่อเหตุวิ่งราวสร้อยทองมา

ทั้งนี้ จากสอบปากคำ นายชื่นกมล ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุจริงโดยต้องการเงินไปใช้หนี้สินและใช้จ่ายส่วนตัว เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา วิ่งราวทรัพย์ และควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป.