เมื่อวันที่ 30 เม.ย. จากกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 26/2565 โดยในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการให้แก้ไขดำเนินการให้ชาวกะเหรี่ยงบางกลอย หมู่ 1 ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี จำนวน 150 คน กลับไปในพื้นที่กลางป่าลึก ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานมรดกโลกได้นั้น สร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวจังหวัดเพชรบุรี รวมทั้ง ชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมเพชรบุรี และประชาชนทั่วไปที่ทราบข่าวเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ นส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ อดีต สว.จังหวัดเพชรบุรี ประธานชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพชรบุรี เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว ที่นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งออกมา ตนในฐานะคนเมืองเพชรบุรีโดยกำเนิด รู้ทันทีว่าป่าต้องเสียหายหมดแน่ เพราะปัจจุบันกลุ่มชาติพันธุ์เขามาอาศัยแผ่นดินไทย อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่เป็นพื้นที่มรดกโลก เราต้องรักและหวงแหนแผ่นดินนี้ เนื่องจากว่าประชาชนคนเมืองเพชรบุรี ยังไม่มีโอกาสที่จะได้อาศัยอยู่ในป่า ทั้งๆ ที่อยากอยู่ แต่ก็ไม่มีสิทธิอาศัยอยู่ได้

กลุ่มคนชาติพันธ์กลุ่มนี้ ได้อพยพข้ามแดนมาอยู่ในผืนป่าแห่งนี้ นานตั้งแต่บรรพบุรุษ ซึ่งทางราชการก็ได้จัดสรรพื้นที่ให้อยู่ทำกิน ในพื้นที่บ้านโป่งลึกบาง-กลอย ซึ่งก็เป็นไปตามความยุติธรรม และมีชีวิตความเป็นอยู่ ที่เหมาะสมในปัจจุบัน ซึ่งคนพื้นที่ราบในเมืองเพชรนั้นยังอิจฉา เนื่องจากอยากอยู่ในป่าแต่ก็ไม่สามารถไปอาศัยอยู่ได้ กลุ่มชาติพันธุ์กลุ่มนี้ได้รับอภิสิทธิ์ที่เหนือกว่าคนไทยทั่วไป วันนี้ทางนายกรัฐมนตรี มาเซ็นคำสั่งแบบนี้อีก ท่านทำเพื่ออะไร ทำเพื่อหาเสียงการเลือกตั้งครั้งนี้ หรืออย่างไร คนเมืองเพชรก็ไม่เคยคิดเลยว่า ท่านจะมาทำให้คนทั้งประเทศ ที่หวงแหนผืนป่ามรดกโลกแห่งนี้ ต้องสั่นสะเทือน

เรื่องนี้กระทบกระเทือนจิตใจมาก หลังจากที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้ประกาศขึ้นเป็นมรดกโลก หลังทราบข่าวตนก็พูดไม่ออก เชื่อว่าคนเพชรบุรีทั้งหมดรู้สึกเสียใจมาก เอาใจคนเพียงแค่ร้อยกว่าคน กับคนเมืองเพชรนับแสนคน มิหนำซ้ำยังตั้งคณะทำงานอิสระ แต่ก็ไม่มีคนเพชรบุรีอยู่ในคณะทำงาน มาเป็นกรรมการอิสระเลย และไม่เข้าใจคนที่อยู่ข้างๆท่านนายกรัฐมนตรี ที่เรียกว่ารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีความรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมอะไรหรือไม่ ตนเป็นคนเมืองเพชรบุรีโดยกำเนิดได้เคยไปเดินสำรวจในผืนป่าแก่งกระจานแห่งนี้ไม่รู้ต่อกี่ครั้งแล้ว เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า แล้วลองคิดดูว่า ถ้าคนกลุ่มหนึ่งเข้าไปอาศัยแล้วจะมีอะไรมารับรองได้ว่า ผืนป่าแก่งกระจาน มรดกโลกแห่งนี้จะไม่เสียหายอีก

อดีต ส.ว. เผยต่ออีกว่า ตนเคยยื่นหนังสือไปแล้วว่า กลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 2 ตำบลนี้ มีอาชีพทำไร่ตามโครงการเศรษฐกิจพอเพียง ที่สามารถทำกินได้ในพื้นที่ 7 ไร่ ต่อ 1 ครอบครัว ท่านสามารถการันตีได้ไหมว่า กลุ่มชาติพันธุ์กลุ่มนี้ ถ้าเข้าไปอยู่ในป่าลึกแล้ว ผืนป่าจะไม่เสียหายอีก มีอะไรมารับประกัน ไม่ใช่ว่าจะตะหวัดปากกานิดเดียวส่ง เป็นภารกิจเอาใจคนกลุ่มหนึ่ง แต่ไม่สนใจจิตใจของคนทั้งประเทศ ตนรับไม่ได้และไม่ยอม หากทำแบบนี้คนเมืองเพชรบุรี ลูกเล็กเด็กแดง แม้กระทั่งพระสงฆ์ ก็จะไปประท้วงท่านนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล

ทางด้าน นายเพรียว คำรัก อายุ 70 ปี ชาวบ้าน ม.3 บ้านห้วยคลอง ต.หนองโสน อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี กล่าวว่า หากให้ชาวกระเหรี่ยงกลับเข้าไปอยู่ในป่าลึกได้ ก็จะมีการล่าสัตว์ แผ้วถางป่า ท่านนายกรัฐมนตรี หวังคะแนนเสียงเลือกตั้ง ในฐานะคนเพชรบุรี ก็ไม่ยินยอมแน่ ก่อนจะเป็นมรดกโลก พวกชาวบ้านก็ต่อต้านกันมา จนได้ขึ้นเป็นมรดกโลก ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ ตนอาศัยอยุ่ในพื้นที่แก่งกระจานมาตั้งแต่เมื่อปี 2528 ก่อนประกาศเป็นพื้นที่อุทยานฯ มีการตัดเส้นทางขึ้นเขาพะเนินทุ่งตั้งแต่สมัย นายสามารถ ม่วงไหมทอง หน.อุทยานฯ แก่งกระจานคนแรก หากปล่อยให้ชาวกระเหรี่ยงขึ้นไปอยู่ ป่าก็จะหมด หากยินยอมให้ขึ้นก็จะได้ใจ ได้คืบจะเอาศอก เมืองไทยใครจะเข้ามาอยู่ได้มันไม่ใช้ พื้นป่าแก่งกระจานแห่งนี้ ได้ประกาศขึ้นเป็นมรดกโลกแล้ว จึงอยากให้นายกรัฐมนตรียกเลิกคำสั่งนี้เสีย ก่อนที่มันจะสายเกินไป

อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าวว่า ชาวเพชรบุรีเตรียมจะร้องศาลปกครอง รวมทั้งต้องการทราบว่านายกฯใช้กฎหมายข้อไหน ที่จะให้ชาวกะเหรี่ยงกลับเข้าไปอยู่ในผืนป่ามรดกโลกอีกครั้ง.