เมื่อวันที่ 4 พ.ค. พ.ต.ท.รพีพงษ์ จิตต์บุญธรรม (สอบสวน) สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุฆ่ากันตาย บริเวณริมถนนติวานนท์ หน้าชุมชนริมคลองบางตลาด ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงประสานเจ้าหน้าที่อาสาสมัครป่อเต็กตึ๊ง และแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รุดตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นทางเท้าริมถนนติวานนท์ พบผู้เสียชีวิตเป็นชายนอนหงายจมกองเลือด มีบาดแผลถูกของมีคมแทงเข้าที่ต้นคอด้านซ้าย ต้นแขนซ้าย และกลางหลัง จำนวน 3 แผล ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายเติมศักดิ์ ไทยเจริญพงศ์ อายุ 45 ปี รปภ.บริษัทแห่งหนึ่ง ย่านเกษตร

ใกล้ศพพบ จยย.ยามาฮ่า แอร็อกซ์ สีดำ-แดง ทะเบียน 1 ขก 7942 กรุงเทพมหานคร ตรวจสอบตามถนนเลียบคลองบางตลาด ทางเข้าชุมชน มีกองเลือดเป็นหย่อมๆ บนทางเดินเท้า และรองเท้าแตะเปื้อนเลือดของผู้เสียชีวิตตกอยู่ นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุยังพบมีดสั้นยาวประมาณ 5 นิ้ว ทิ้งอยู่ข้างประตูห้องไม่มีเลขที่ ซึ่งเป็นที่พักชั่วคราวใต้สะพานข้ามคลองบางตลาด ตรวจสอบในห้องพักไม่พบร่องรอยการต่อสู้

ต่อมา นางกิมเตียง มั่งคงพรวิเชียร แม่ผู้เสียชีวิตเดินทางมาที่เกิดเหตุ เห็นสภาพศพลูกชายถึงกับปล่อยโฮร้องไห้ด้วยความเสียใจ เนื่องจากจำ จยย.ของลูกชายได้ ให้การว่าตนกับลูกอาศัยอยู่ในซอยทรายทองใกล้กับที่เกิดเหตุ เมื่อเช้าลูกชายออกมาซื้อของที่ตลาดประชานิเวศน์ เห็นหายไปนานจึงโทรฯ ติดต่อลูกแต่ไม่มีมีการรับสาย รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี ภายหลังทราบจากชาวบ้านว่ามีเหตุแทงกันตาย จึงพบว่าเป็นลูกชายที่โดนทำร้ายเสียชีวิต ทั้งนี้ ลูกเป็นเสาหลักของบ้าน เพราะยังมีหลายชายวัย 16 ปี ป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ที่ต้องเลี้ยงดูอยู่อีกคน

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ สามารถติดตามจับกุม นายมานะ เมฆสุวรรณ หรือ “นะ” อายุ 38 ปี ผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้จึงควบคุมตัวไปสอบสวนยัง สภ.รัตนาธิเบศร์ ทันทีเบื้องต้นให้การรับสารภาพอ้างว่า ขณะกำลังเดินเล่นอยู่บริเวณถนนเลียบคลอง พบผู้เสียชีวิตเดินผ่านมา จึงเกิดการมองหน้ากัน ปรากฏว่าอีกฝ่ายกลับพูดจาให้ของลับ ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ด้วยความโมโหจึงชักมีดออกมาแทงและวิ่งหนีตายไป หลังเกิดเรื่องตนกลับเข้าห้องพักมานอนต่อ โดยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นอย่างไร

ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบประวัติผู้ นายมานะ เมฆสุวรรณ จึงพบว่า มีประวัติต้องโทษติดคุกมาหลายคดี คดีล่าสุดยาเสพติด และเพิ่งพ้นโทษออกมาได้เพียงไม่กี่เดือน ทั้งยังใส่กำไลอีเอ็มที่ข้อเท้าเพื่อควบคุมความประพฤติ แต่ก็ยังกลับมาก่อเหตุฆ่าคนตายซ้ำ เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนต่อไป.