เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 5 พ.ค. พ.ต.ท.สมบัติ มีล้อม สว.(สอบสวน) สน.บางขุนเทียน รับแจ้งเหตุผู้ใช้อาวุธปืนยิงกันภายในร้านจำหน่ายโลงศพ ชื่อ “โพธิ์สุขหีบศพ” ตั้งอยู่เลขที่ 59 ซอยเอกชัย 76 แยก 2-3 แขวงบางบอนเหนือ เขตบางบอน กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.พายัพ สมบูรณ์ ผกก.สน.บางขุนเทียน พ.ต.ท.จารุกิตติ์พัฒน์ สุขยิ่ง รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ขจร ธูปประกายศรี สว.สส. และกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.บางขุนเทียน

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น ด้านล่างเป็นสำนักงานร้านขายโลงศพ พบปลอกกระสุนปืนขนาด .32 ออโตเมติก กระจายเกลื่อนพื้นรวม 7 ปลอก ที่โลงศพสีขาว ซึ่งเป็นโลงเปล่า ที่ทางร้านเตรียมไว้ขาย มีร่องรอยหัวกระสุนปืนขนาดเดียวกัน จำนวน 7 รู เมื่อทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้าน พบภาพผู้ก่อเหตุบุกรุกเข้ามาก่อเหตุชัดเจน เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวน นายอนุชา กงใจ อายุ 19 ปี ลูกจ้างร้านขายโลงศพ ซึ่งเป็นผู้ถูกไล่ยิงให้การว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังนอนอยู่บริเวณชั้นล่างหน้าร้าน จู่ๆ นายสมาน บุญยอ อายุ 46 ปี เจ้าของร้านสมานการ์เม้นท์ ซึ่งเปิดจำหน่ายเสื้อผ้าชื่อดัง ตั้งอยู่ข้างๆ กัน ก็เดินเข้ามาใช้อาวุธปืนไล่กระหน่ำยิงใส่ตนและโลงศพ ในร้านหลายนัด จนตนต้องลุกขึ้นวิ่งหนีตายไปด้านบนร้าน ก่อนจะโทรศัพท์แจ้งตำรวจมาระงับเหตุ โดยสาเหตุตนเชื่อว่าน่าจะมาจากการที่ นายสมาน เป็นไม้เบื่อไม้เบากับทางร้านตนมานาน เพราะมักมีปัญหากระทบกระทั่งกันเรื่องที่จอดรถ

“จนเมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา มีลูกน้องของ นายสมาน มาบอกให้คนในร้านตนช่วยขยับรถที่จอดขวางหน้าร้านสมานการ์เม้นท์ออก เนื่องจากจะนำรถมอเตอร์ไซค์เก็บเข้าร้าน แต่ปรากฏว่าคนที่ไปขยับรถ ดันเข้าเกียร์ผิดทำให้รถถอยชนมอเตอร์ไซค์คันดังกล่าว จึงเกิดมีปากเสียงกันขึ้น และต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันไปแล้ว แต่เมื่อนายสมาน ทราบเรื่องก็มาใช้อาวุธปืนไล่ยิงผมและทรัพย์สินในร้าน ทั้งๆ ที่ผมไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร” นายอนุชา กล่าว.

อีก 1 ชั่วโมงต่อมา นายสมาน ผู้ก่อเหตุได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.พายัพ สมบูรณ์ ผกก.สน.บางขุนเทียน เพื่อขอมอบตัวโดยนำของกลาง อาวุธปืนยี่ห้อบาเร็ตต้า รุ่มทอมแคท ขนาด .32 ออโตเมติก และซองกระสุนอีก 1 อัน มามอบให้เจ้าหน้าที่ โดยเจ้าตัวยอมรับสารภาพทำไปเพราะความบันดาลโทสะ เนื่องจากมีปัญหาเป็นไม้เบื่อไม้เมากับทางร้านขายหีบศพมานาน ซึ่งระหว่างก่อเหตุ ตั้งใจยิงใส่โลงศพที่เป็นโลงเปล่าๆ ไม่ได้หันปากลำกล้องปืนไปทาง นายอนุชา แต่อย่างใด ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ เป็นของน้องชายมีทะเบียนถูกต้องนำเอามาฝากไว้นานแล้ว

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจึงควบคุมตัวนายสมาน เอาไว้ ก่อนทำการสอบปากคำเเจ้งข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่น, บุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านและทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.