เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.พนิดา การสอน อายุ 23 ปี ตัดสินใจใช้คอกควายเก่า ที่เคยใช้เลี้ยงคควายเอาไว้สองตัวก่อนหน้านี้ แล้วจำเป็นต้องขายเพื่อนำเงินมาเป็นค่ารักษาตาที่ไม่สบายจนกลับมาหายดี มาทดลองเป็นสถานที่เลี้ยงตั๊กแตนปาทังก้า เพื่อหวังสร้างอาชีพใหม่ทำรายได้ให้กับครอบครัวอีกครั้ง โดยศึกษาวิธีเลี้ยงมาจากสื่อออนไลน์แล้วติดต่อขอซื้อไข่ตั๊กแตนมาทดลองเลี้ยงจนเริ่มประสบความสำเร็จรวมไปถึงการเพาะพันธุ์เพื่อขายต่อตามท้องตลาดที่ตอนนี้มีออร์เดอร์มาไม่ขาดสาย เรียกได้ว่ามีเท่าไหร่ก็ไม่พอขายเลยทีเดียว

น.ส.พนิดา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ครอบครัวตนเองเลี้ยงควายเอาไว้สองตัว จากนั้นก็จำเป็นต้องขายเพื่อนำเงินมารักษาตาที่ไม่สบาย จนกลับมาหายดีอีกครั้ง จากนั้นจึงอยากทดลองเลี้ยงอะไรใหม่ๆ แทนการเลี้ยงควาย เนื่องจากการเลี้ยงควายนั้นค่อนข้างหนักเกินไป ทั้งราคาที่จะหาซื้อมาเลี้ยงใหม่และวิธีการเลี้ยงดู ขณะที่คนในครอบครัวก็มีอายุมากแล้ว จึงศึกษาผ่านทางโลกโซเซียลจนมาพบวิธีการเพาะเลี้ยงตั๊กแตน จึงทดลองสั่งซื้อหามาเลี้ยงไว้ ซื้อมาสองขีด เพาะได้ 500 ตัว จากนั้นก็ให้ตั๊กแตนที่เพาะได้ผสมกันเองแล้วออกมาไข่รุ่นใหม่มาแล้วก็ขยายพันธุ์ต่อ โดยเริ่มต้นจากการเลี้ยงเพื่อเอาไว้กินเอง แต่ล่าสุดทางสมาชิกในกลุ่มค้าขายตั๊กแตนออนไลน์ก็มีคำสั่งซื้อมาเป็นจำนวนมากทำให้ตอนนี้ก็เริ่มที่จะได้ส่งขายผ่านทางกลุ่มอย่างต่อเนื่อง

โดยขั้นตอนของการเลี้ยงตั๊กแตนปาทังกาโม หรือตั๊กแตนพื้นถิ่นนั้น เริ่มจากการเตรียมสถานที่เลี้ยง ต้องเลี้ยงในระบบปิด โดยใช้มุ้งตาข่ายเขียวขนาดเล็กมาเย็บต่อกันให้เป็นโรงเรือนเพาะเลี้ยงรูปทรงสี่เหลี้ยม ขนาดประมาณ กว้าง 3 เมตร ยาว 4 เมตร สูง 2 เมตร ปูพื้นด้วยทราย จากนั้นก็นำไข่ตั๊กแตนมาเพาะไว้ เมื่อตั๊กแตนฟักออกมาแล้วก็เริ่มให้อาหารโดยการใช้ใบไม้อย่างใบกล้วยหรือหญ้า ฉีดพรมน้ำเช้าเย็น แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว จากนั้นรอให้ตั๊กแตนมีอายุ 45 วัน ก็จะเริ่มผสมพันธุ์และออกไข่มาให้ได้เก็บ โดยจะใช้วิธีการนำกระบะทรายมาวางไว้เพื่อให้ตั๊กแตนมาวางไข่แล้วทยอยเขี่ยเก็บ ซึ่งการเก็บก็จะเริ่มทยอยเก็บครั้งนึงสามวันแล้วเว้นไว้อีก 2 วัน ก็เก็บใหม่ และเมื่อตั๊กแตนอายุได้ 60 วันก็จะเริ่มทยอยจับตัวส่งขายแล้วนำชุดใหม่มาเลี้ยงแทน ซึ่งแต่และโรงเรือนถ้าโรงเรือนขนาดนี้จะสามารถเลี้ยงตั๊กแตนได้เป็นหมื่นๆตัวเลยทีเดียว

สำหรับราคาการซื้อขายตั๊กแตนในคอนนี้นั้น ราคาขายแบบเป็นตัวจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 500 บาท แต่หากขายเป็นไข่ราคาจะสูงถึงกิโลกรัมละกิโลกรัมละ 10,000 บาท หรือขีดละ 1,000 บาทเลยทีเดียว ซึ่งถืออาชีพใหม่ที่ดีอย่างมาก เพราะเป็นค่าตอบแทนที่ดี ตลาดต้องการสูง เพราะตั๊กแตนถือเป็นอาหารโปรตีนชั้นดีคนนิยม อีกทั้งขั้นตอนการเลี้ยงก็ง่ายลงทุนต่ำด้วย