เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 17 พ.ค. พ.ต.ท.เธียรภัทร กล้าใจ สวป.สน.ท่าข้าม ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ โกดัง ริมคลองสีบาท ภายในซอยพระราม 2 ที่ 50 แขวง-เขตบางขุนเทียน กทม. จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจาก สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารโกดังไม้ชั้นเดียว สภาพเพลิงไม้ทั้งอาคารได้รับความเสียหาย โครงสร้างอาคารยังไม่ถล่มลงมา ในบริเวณเดียวกันมีอาคารห้องพักคนงานอยู่ด้านในสุดได้รับความเสียหายทั้งหมด ติดกับโกดังเป็นบ้านพักเจ้าของโรงงานสูง 2 ชั้น โครงสร้างไม้ ได้รับความเสียหายครึ่งหลัง นอกจากนี้ อาคารพาณิชย์ที่อยู่ติดกับโกดัง ได้รับความเสียหายจากคราบเขม่าไฟ แต่เพลิงไม่ลุกไหม้ถึงอาคารพาณิชย์หลังดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สามารถฉีดน้ำสกัดเพลิงไว้ได้หมดแล้ว โดยไม่มีผู้ติดค้างในอาคารและไม่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ มีเพียงผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่บริเวณแขนซ้าย 1 ราย คือ น.ส.สุทธิรา แก้วไผ่ อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของโรงงาน โดยได้รับบาดเจ็บเนื่องจากหกล้มระหว่างช่วยดับไฟ

น.ส.สุทธิรา เปิดเผยว่า อาคารที่เกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ เป็นโกดังโรงงานเหล็กที่อยู่ด้านหน้าและโรงงานสกรีนผ้าที่อยู่ด้านหลัง โดยส่วนต้นเพลิงนั้นคือ บริเวณบ้านพักคนงานที่อยู่บริเวณด้านหลังแล้วลามมาจนถึงส่วนโรงงานสกรีนผ้า เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายได้ เพราะทำตัวไม่ถูกและตนเองยังอยู่ในอาการที่ตระหนกตกใจอยู่ เบื้องต้นเอกสารสำคัญและโทรศัพท์มือถือของตนได้เสียหายไปกับเพลิงไหม้ครั้งนี้

โดยเหตุการณ์เพลิงไหม้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 6 โมงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าว เป็นเวลาที่คนงานทำกิจวัตรส่วนตัวและทำความสะอาดโรงงานเพื่อเตรียมทำงานในช่วงสาย ส่วนตนอยู่ในบ้านกับสามีและลูกอีก 2 คน ตอนนั้นคนงานได้มาแจ้งกับตนว่าเกิดเพลิงไหม้แล้ว พอออกมาจากบ้านก็เห็นว่าไฟกำลังลุกไหม้ จึงให้สามีนำลูกไปอยู่ที่บ้านญาติก่อน ส่วนตนก็รีบนำถังดับเพลิงมาช่วยดับไฟแต่เกิดสะดุดล้มเป็นแผลที่บริเวณแขนซ้าย จึงเรียกให้รถดับเพลิงมาช่วยดับไฟ คาดว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คนงานมาบ่นกับตนว่า มีปัญหาเรื่องสายชาร์จโทรศัพท์ จึงไปซื้อสายชาร์จโทรศัพท์ที่ขายตามท้องตลาดนำมาใช้ จึงเชื่อว่า เหตุน่าจะเกิดจากสายชาร์จโทรศัพท์ที่เสื่อมคุณภาพของคนงาน จนทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม สันนิษฐานว่า เหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งนี้ น่าจะเกิดจากเหตุไฟฟ้าลัดวงจร แต่ต้องรอให้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ รวมทั้งต้องสอบปากคำคนงาน เจ้าของโรงงาน และพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดของเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ต่อไป.