เมื่อวันที่ 18 พ.ค. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ พล.ต.ต.ไพโรจน์ สุขรวยธนโชติ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 สั่งการให้ พ.ต.อ.มรกต แสงสระคู ผกก.2 บก.สอท.3 พ.ต.ต.ธเนตร กาละกุล สว.กก.2 บก.สอท.3 จับกุม น.ส.เอ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ชาวจังหวัดยโสธร ในความผิดฐาน “เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อหรือขายเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลใดบุคคลหนึ่งแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้” พร้อมด้วยของกลาง บัญชีธนาคาร, โทรศัพท์เคลื่อนที่ ซิมการ์ดโทรศัพท์พร้อมหมายเลขเบอร์โทรศัพท์ จำนวน 26 ซิมการ์ด และตรวจพบกล่องพัสดุ บรรจุหีบห่อเตรียม ส่งสินค้าให้กับลูกค้าโดยจ่าหน้าซองผู้ต้องหาในช่องผู้ส่ง ภายในยังพบซิมการ์ดโทรศัพท์อีก จำนวน 6 ซิม

สืบเนื่องจากทาง บช.สอท. มีแนวทางในการตรวจสอบการกระทำความผิดตามสื่อสังคมออนไลน์ ระดมกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งขบวนการซื้อขายซิมผีบัญชีม้า สร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนเป็นจำนวนมาก ทาง บก.สอท.3 จึงสืบสวนได้หาข่าวทางออนไลน์พบกลุ่มเฟซบุ๊ก “ซิม sim” มีการประกาศซื้อขายซิมโทรศัพท์ที่ถูกลงทะเบียนแล้วโดยบุคคลอื่น โดยได้มีซึ่งผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ “คุณนุ่น เบอร์มงคล” ทำการโพสต์ข้อความระบุว่า “ดีแทคลงทะเบียนไม่เปิดเบอร์มี 300 เบอร์” จึงได้ออกอุบายติดต่อซื้อซิมโทรศัพท์ดังกล่าว โดยผู้ต้องหาแจ้งให้ชำระเงินเข้าบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชี น.ส.เอ กระทั่งได้รับพัสดุจึงตรวจสอบพบว่าเป็นซิมการ์ดที่ถูกลงทะเบียนด้วยบุคคลอื่นที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ ถูกส่งมาจากบ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.สงยาง อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร จึงได้นำหมายค้นศาลจังหวัดยโสธร เข้าทำการตรวจค้นบ้านพักหลังดังกล่าว ก็พบของกลางทั้งหมดอยู่ในบ้าน

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า การกระทำดังกล่าวนั้นเป็นความผิด แต่ยังคงให้การปฏิเสธในเรื่องของการได้มาของซิมโทรศัพท์และถูกนำไปใช้กับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบซิมทั้งหมดพบว่าซิมโทรศัพท์มีการลงทะเบียนเป็นชื่อบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ชื่อ น.ส.เอ อีกทั้งจากแนวทางสืบสวนพบว่าขบวนการดังกล่าวจะตระเวนกว้านซื้อซิมที่ลงทะเบียนไว้เพื่อรวบรวมขายให้กับเหล่ามิจฉาชีพ ซึ่งในรายของผู้ต้องหาพบมีการจำหน่ายซิมที่ลงทะเบียนแล้วไปมากกว่า 2,000 เลขหมาย และมีไปทางขนส่งไปยังจังหวัดแถบตะเข็บชายแดนด้วย อย่างไรก็ดี ทางชุดสืบสวนจะทำการขยายผลหาความเชื่อมโยงของเครือข่ายดังกล่าวพร้อมกับวางมาตรการร่วมกันกับผู้ให้บริการเครือข่ายต่อไป.