เมื่อวันที่ 21 พ.ค. นายเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ หัวหน้าพรรคพลังสังคมใหม่ และว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังสังคมใหม่ กล่าวถึงร่างเอ็มโอยูพรรคร่วมรัฐบาล 9 พรรค 13 ข้อ ว่า ตนสนับสนุนทุกข้อ เพราะขณะนี้ไม่มีประเด็นการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 แล้ว ซึ่งในเอ็มโอยูที่เตรียมแถลงในวันที่ 22 พ.ค.นี้ พรรคร่วมรัฐบาลต้องหารือและร่วมกันลงนาม โดยตนมีประเด็นที่เป็นข้อเสนอเพิ่มเติมต่อการปฏิรูปที่ดินทั้งระบบโดยเฉพาะในส่วนของที่ดิน ส.ป.ก.4-10 หรือหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม ขอให้พิจารณาการตกทอดไปยังลูก หรือ หลานที่ไม่ได้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้ เพราะตนเจอปัญหากรณีที่ผู้ครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ที่มีบุตรคนเดียวและประกอบอาชีพพนักงานราชการ ไม่ใช่อาชีพที่สามารถได้รับสิทธิครอบครองต่อได้ และกรณีของที่ดิน ภ.บ.ท.5 ที่เป็นที่ดินทำกินแต่ไม่มีหลักฐานการครอบครองหรือโฉนด มีเพียงการเสียภาษีบำรุงท้องที่หรือภาษีดอกหญ้า ดังนั้น ควรพิจารณาให้สามารถออกเป็นโฉนดครอบครองได้

“ในร่างเอ็มโอยูทั้งหมดไม่มีปัญหา ผมรับหลักการได้ทั้งหมด เพราะการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ไม่ได้นำเข้ามา” นายเชาวฤทธิ์ กล่าว.