เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 23 พ.ค. ที่ห้องประชุม สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้มีการตรวจนับคะแนนเลือกประธาน ก.อ. และ ก.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิ โดยในส่วนของประธาน ก.อ. มีผู้สมัครเข้ารับเลือกจากคะแนนเสียงของอัยการทั่วประเทศยกเว้นอัยการผู้ช่วย จำนวน 5 คน

มีการเริ่มนับคะแนนตั้งแต่เวลา 09.30-12.15 น. มีบัตรลงคะแนนจำนวน 4,026 ใบ ผลปรากฏว่าผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุดเรียงลำดับดังนี้ 1.นายเรวัตร จันทร์ประเสริฐ อดีตรองอัยการสูงสุด ได้ 2,206 คะแนน 2.นายตระกูล วินิจนัยภาค อดีตอัยการสูงสุด ได้ 644 คะแนน 3.นายเรวัตร ฉ่ำเฉลิม 268 คะแนน 4.น.ส.ปิยะพันธุ์ อุดมศิลป์ 248 คะแนน 5.นายสมชาย คูวิจิตรสุวรรณ ได้ 55 คะแนน

สำหรับ นายเรวัตร จันทร์ประเสริฐ เป็นเพื่อนร่วมรุ่นคณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ รุ่น 11 รุ่นเดียวกับ นายอรรถพล ใหญ่สว่าง อดีต อสส.และ ปธ.ก.อ. คนแรกจากการเลือกตั้ง และบรรจุรับราชการอัยการรุ่นเดียวกันกับนายตระกูล วินิจนัยภาค อดีตอัยการสูงสุด ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกจับตามองเป็นตัวเต็งในการเลือกตั้งประธาน ก.อ.ครั้งนี้ ด้วยความเป็นผู้ใหญ่จิตใจดีได้รับการยอมรับจากทุกระดับชั้น เป็นที่เคารพรักน้องๆ อัยการ จากเคยเป็น อธิบดีอัยการ สถาบันพัฒนาข้าราชฝ่ายอัยการ จนถึงอัยการอาวุโส เสมือนครูใหญ่ จัดฝึกอบรมอัยการผู้ช่วยฯอัยการจังหวัดและหลักสูตรอื่นอีกหลายรุ่น

โดยคณะกรรมการอัยการ (ก.อ) ตามกฎหมายใหม่จำนวน 15 คน ประกอบด้วยประธาน ก.อ. (ที่มาจากการเลือกของอัยการยกเว้นอัยการผู้ช่วยซึ่งกฎหมายเก่าจะเป็น อสส.โดยตำแหน่ง) โดยมีอัยการสูงสุดเป็นรองประธาน ก.อ. ส่วน ก.อ.ประกอบด้วย รองอัยการสูงสุดตามลำดับอาวุโส จำนวน 5 คน กรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 6 คน ซึ่งมาจากการเลือกของอัยการยกเว้นอัยการผู้ช่วย ประกอบด้วย อัยการชั้น 5 ขึ้นไปจำนวน 4 คน อัยการที่เกษียณอายุราชการ จำนวน 2 คน รวมเป็น 6 คน และกรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 2 คน ซึ่งไม่เป็นหรือเคยเป็นอัยการมาก่อนและเป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านการงบประมาณ การพัฒนาองค์กร หรือการบริหารจัดการ (มาจากการเลือกของอัยการยกเว้นอัยการผู้ช่วย) โดยให้อธิบดีอัยการ สำนักงานคณะกรรมการอัยการ เป็นเลขานุการ ก.อ.

สำหรับคุณสมบัติผู้ที่มีสิทธิได้รับเลือกเป็นประธาน ก.อ. จะเป็นผู้รับบำเหน็จบำนาญตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ และเคยรับราชการเป็นข้าราชการมาแล้วในตำแหน่งไม่ต่ำกว่าอธิบดีอัยการ หรืออธิบดีอัยการภาค หรือเคยรับราชการในตำแหน่งไม่ต่ำกว่าอธิบดีหรือหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่า ทั้งนี้ ต้องไม่เคยเป็นสมาชิก หรือเป็นเจ้าหน้าที่พรรคการเมืองในระยะสิบปีก่อนได้รับเลือกโดยประธาน ก.อ. มีวาระดำรงตำแหน่ง 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าแต่งตั้ง ส่วน ก.อ. ผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระดำรงตำแหน่ง 2 ปีนับแต่วันที่ อสส. ประกาศรายชื่อผู้ได้รับเลือกเป็น ก.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิ โดยประธาน ก.อ. และ ก.อ.ผู้ทรงคุณวุฒิดำรงตำแหน่งได้วาระเดียว.