เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ร.ต.อ.สามารถ รักษาสัตย์ รอง สว.สอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในชุมชนด้านหลังวัดบางกะจะ ม.4 ต.สำเภาล่ม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมประสานนำรถดับเพลิงจาก อบต.สำเภาล่ม เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ใกล้เคียง รถดับเพลิงของสมาคมอยุธยารวมใจไปควบคุมเพลิง ที่เกิดเหตุมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทางเข้าชุมชนเป็นที่แคบรถดับเพลิงต้องใช้ความระมัดระวังในการเข้าไปควบคุม พบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านเรือนประชาชนที่ปลูกติดกัน บ้านเรือนส่วนใหญ่จะเป็นบ้านไม้ทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำเพื่อควบคุมเพลิง และขนย้ายถังแก๊สจำนวนหลายใบออกจากกองเพลิง ใช้เวลาประมาณ 50 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้

จากการตรวจสอบพบว่ามีบ้านเรือนถูกเพลิงไหม้เสียหาย 4 หลัง รถจักรยานยนต์ถูกเพลิงไหม้เสียหายหลายคัน ภายในซากกองเพลิงยังพบแมวถูกไฟคลอกตาย 1 ตัว สอบถามนางพะนอ อายุ 62 ปี ที่ยังอยู่ในอาการตกใจและเสียใจที่บ้านถูกเพลิงไหม้ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ขณะที่ตนเองพักผ่อนอยู่ในบ้านตอนนั้นฝนตกหนักไฟฟ้าเกิดดับ 2 ครั้ง จากนั้นไฟมาติดอีกครั้งแล้วได้ยินเสียงไฟช็อตมาจากบ้านของหลานสาวที่อยู่ใกล้เคียง จากนั้นเห็นไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็วจึงรีบตะโกนบอกคนในบ้านและชุมชนให้หนีออกมา บ้านที่ถูกเพลิงไหม้จะบ้านของญาติพี่น้องกันทั้งหมด สงสารแมวของตนเองหลายตัวที่ช่วยออกมาไม่ทันถูกเพลิงไหม้เสียชีวิต และบางตัววิ่งหนีออกไป

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กันพื้นที่บริเวณที่เกิดเพลิงไหม้ไว้ก่อนพร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานพระนครศรีอยุธยา เข้าตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ต่อไป