กำลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างร้อนแรงไปทั่วทั้งสังคมไทยอยู่ในขณะนี้ ภายหลังจากที่แฟนเพจเฟซบุ๊ก “สหภาพแพทย์ผู้ปฏิบัติงาน” ออกมาเล่าเรื่องราวของคุณหมอที่ต้องทำงานหนัก ภาระงานอื่นเยอะเกิน นอนน้อย-ไม่ได้นอน ลงเวรไปประชุมจนรถคว่ำ รวมไปถึงได้เกิดกระแสคุณหมอได้ออกมาเปิดเผยถึงความยากลำบาก เหน็ดเหนื่อยในการทำงานที่มาจากระบบ กันเป็นอย่างมาก

โดยภายหลัง ทางด้าน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย พญ.พิมพ์เพชร สุขุมาลไพบูลย์ ผอ.สำนักงานบริหารโครงการร่วมผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท แถลงข่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น เป็นปัญหาขาดแคลนแพทย์สะสมมานาน ต้องใช้เวลาแก้ไขนั้น

จากกรณีดังกล่าวนี้เอง ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. “สหภาพแพทย์ผู้ปฏิบัติงาน” ได้ออกแถลงการณ์ต่อกรณี “แพทย์ลาออกจาก สธ.” โดยระบุว่า จากกระแส “แพทย์ลาออกจาก สธ.” ที่เป็นประเด็นทางสังคมในปัจจุบัน จนถึงการแถลงข่าวในวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2566 ซึ่งจัดโดยกระทรวงสาธารณสุข

ทางสหภาพแพทย์ผู้ปฏิบัติงานขอขอบคุณทางกระทรวงสาธารณสุข ที่มีการตอบสนองต่อกระแสดังกล่าวและเปิดเผยข้อมูลสถานการณ์ปัจจุบันในด้านปัญหาการขาดแคลนแพทย์, การสูญเสียแพทย์ออกจากระบบ และการให้บริการภาครัฐอย่างต่อเนื่องจากสาเหตุภาระงานมากเกินศักยภาพ ทั้งจำนวนชั่วโมงที่ติดต่อนานกันสูงสุดมากกว่า 100 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ รวมถึงค่าตอบแทนที่ไม่เหมาะสมกับภาระงานที่แพทย์ต้องรับผิดชอบ ซึ่งทางกระทรวงฯ ได้ยอมรับถึงปัญหาและข้อจำกัดต่างๆ แก่สาธารณชน

การทำงานเป็นระยะเวลาต่อเนื่องมากกว่า 80 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ นอกจากจะเพิ่มความเสี่ยงในการเสียชีวิตของผู้ป่วย ยังเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของแพทย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางภาครัฐได้มองข้ามความสำคัญ ทำให้ปัญหาส่วนนี้ฝังรากลึกในระบบสาธารณสุขไทยมาเป็นระยะเวลานาน การแถลงถึงข้อจำกัดและการแก้ไขปัญหาโดยปราศจากความชัดเจน อีกทั้งยังไม่ได้พูดถึงปัญหาหลักอย่างการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร การแก้ไขปัญหาเรื่องความโปร่งใสในการจัดสรรภาระงาน หรือการเพิ่มการเข้าถึงการบริการสุขภาพในรูปแบบอื่นที่ไม่ใช่โรงพยาบาล ถือเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีกรณีที่สหภาพแพทย์ผู้ปฏิบัติงานได้พยายามเชิญรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเข้าร่วมการประชุมและหาทางออกร่วมกันจากหลายภาคส่วน แต่ไม่ได้รับการตอบกลับมาแต่อย่างใด จนถึงวันนี้ พวกเราแพทย์ กลับได้คำตอบเพียงว่า ปัญหาเหล่านั้นอยู่นอกเหนือความสามารถของกระทรวง ที่จะปรับเปลี่ยนเรื่องค่าตอบแทนและตำแหน่งเพิ่มเติมที่เหมาะสมให้กับแพทย์ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นอย่างยิ่งในฐานะผู้บริหารระบบสาธารณสุขของประเทศ

ทางสหภาพแพทย์ผู้ปฏิบัติงานขอยืนหยัดเคียงข้างแพทย์ผุ้ปฏิบัติงานทุกท่าน ไม่ว่ากี่รัฐบาลจะเปลี่ยนผ่าน เราจะต่อสู้กับความไม่เป็นธรรมและการกดขี่ที่เกิดขึ้นในสังคมไทย จนกว่าวิชาชีพของพวกเรา จะสามารถช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ได้โดยปราศจากความกังวลและแรงกดดันจากการทำงานที่ถูกกดขี่อย่างไม่เป็นธรรม ทั้งนี้ ทางสหภาพแพทย์ผู้ปฏิบัติงานหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ว่าที่รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขคนถัดไป จะเรียนรู้ข้อผิดพลาดจากความพยายามในการแก้ไขปัญหาในปัจจุบัน ไม่ยึดติดกับกฏเกณฑ์ที่ขัดขวางการพัฒนาวงการแพทย์และระบบสาธารณสุขไทย โดยยึดประโยชน์สูงสุดของประชาชนเป็นที่ตั้ง หยุดเพิ่มความเสี่ยงให้ผู้ป่วย คืนความเป็นมนุษย์ให้แพทย์ และบุคลากรสาธารณสุขทุกวิชาชีพ..

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก @สหภาพแพทย์ผู้ปฏิบัติงาน