จากกรณีร.ต.ท.ทวีวิทย์ แก้วโรย รอง สว.(สอบสวน) สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุนักเรียนชายปีนเสาสัญญาณโทรศัพท์ กระโดดลงมาฆ่าตัวตายที่บริเวณในปั๊มน้ำมันไม่มีชื่อ ซอยถนนยุทธศาสตร์ ต.ปากแพรก อ.ทุ่งสง ที่เกิดเหตุภายในปั๊มน้ำมัน ข้างคาร์แคร์ล้างรถ พบร่างผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี เป็นนักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพนอนหงายเสียชีวิตในชุดพละของโรงเรียนเสื้อสีฟ้า นุ่งกางเกงวอร์มสีดำ สภาพศพแขนขาและคอหักเสียชีวิตคาที่ ข้างเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือ บริเวณที่เกิดเหตุพบหลังคากระเบื้องแตกทะลุ และพบรองเท้านักเรียน และปากกาหล่นเกลื่อนกระจาย เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 6-8 ชม.ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ผอ.รร.ดังกล่าว  กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของน้องด้วย  ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้  ซึ่งปกติน้องๆ เป็นคนนิ่งเงียบอยู่แล้ว และจากการพูดคุยกับครูประจำชั้นและครูปกครอง ที่เกี่ยวข้องและลูกๆที่เป็นเพื่อนๆของน้อง  ได้บอกว่าน้องคนนี้เวลาที่อยู่กับเพื่อนๆก็จะพูดคุยปกติ น้องจะไม่เอาเรื่องที่เครียดๆมาคุยกับเพื่อนเลย และเมื่อวาน( 6 มิ.ย.)ตรวจสอบแล้วน้องก็มาโรงเรียนปกติ เรื่องการเรียนของน้องก็มีผลการเรียนปกติ ไม่มีปัญหาอะไรเรื่องการเรียน

ส่วนประเด็นเรื่องทรงผมของโรงเรียนนั้น ก็เป็นระเบียบของทางโรงเรียน และใช้กระบวนการมีส่วนร่วมของทั้งผู้ปกครองเครือข่ายผู้ปกครองตัวแทนนักเรียน และตัวแทนสภานักเรียนซึ่งทำเป็นข้อตกลงร่วมกัน ทำให้เด็กๆมามีส่วนร่วมด้วย ซึ่งเราไม่อยากให้เป็นประเด็นสร้างความคิดที่มันแตกต่างๆ ระหว่างผู้ใหญ่กับเด็ก สำหรับประเด็นเรื่องทรงผมของทางโรงเรียนนั้นจะสั้นหรือยาวก็ได้ แต่ต้องไม่ทำสีผม โรงเรียนไม่ได้ไปเข้มงวดหรือกดดันอะไรนักเรียน เพราะเข้าใจตัวนักเรียนดี จึงเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่น่าจะเกิดมาจากปัญหาเรื่องระเบียบทรงผ มของทางโรงเรียนแต่เชื่อว่าน่าจะเกิดจากสาเหตุอื่น 

ม.3ปีนเสาสัญญาณโทรศัพท์โดดฆ่าตัวตาย ครูที่ปรึกษาเผยนิสัยดี-เพื่อนๆรักใคร่…

ด้านพ่อของด.ช.เอ กล่าวว่า ลูกตัดผมไป 2 หนแล้ว พอหน 3 ก็ให้ตัดผมอีก และรับปากครูว่าจะไปตัดหนที่ 3 และตนคิดว่าเมื่อวาน( 6 มิ.ย.)ลูกไปตัดผมหนที่ 3 พอค่ำตนทำงานเหนื่อยๆก็นอนพัก พอค่ำลูกไม่กลับเข้าบ้าน ตนก็ออกไปตามและสงสัยว่าไปนอนบ้านเพื่อนที่ ต.นาหลวงเสน เพราะลูกไปนอนบ้านเพื่อนเป็นประจำ ก็ออกตามหาอีกครั้ง ขณะที่เพื่อนของลูกบอกว่าลูกชายไม่ได้ไปนอนด้วย ตนได้โทรฯไปลาป่วยกับครูประจำชั้น ซึ่งทางครูถามว่าทำไมไม่กลับบ้าน จึงบอกว่าลูกอาจจะเครียดเรื่องทรงผม เนื่องจากทราบจากเพื่อนๆว่า ครูบอกว่าหากไม่เปลี่ยนทรงผมก็ให้ย้ายโรงเรียน ดังนั้นอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกชายตนเองเครียดและคิดสั้นดังกล่าว  แต่เข้าใจครูอาจจะพูดให้ลูกชายตนไปตัดทรงผมใหม่ ซึ่งความจริงลูกชายตนไปตัดผมมาแล้ว 2 ครั้งก็ถือว่าตัดแล้ว แต่ถ้าไม่ตัดเลยก็ว่าไปอย่าง แต่เรื่องทั้งหมดก็ผ่านมาแล้ว ไม่อยากจะติดใจเอาความอะไรกับใคร ซึ่งตนกำลังเตรียมจัดงานศพของลูกชายที่วัดชัยชุมพล อ.ทุ่งสง ซึ่งจะรดน้ำศพในวันพรุ่งนี้(8มิ.ย.)