จากกรณี ครูบา อายุ 56 ปี เจ้าอาวาสวัดดังแห่งหนึ่ง ใน อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ถอยรถชนรถยนต์เสียหาย 4 คัน รถจักรยานยนต์ 2 คัน เหตุเกิดเมื่อ 29 พ.ค. 66 ช่วงเช้าตรู่ ที่ คอนโดฯ เคหะแห่งหนึ่ง ใน อ.เมืองเชียงใหม่ โดยพระดังกล่าวยอมชดใช้ค่าเสียหายให้กับเจ้าของรถยนต์ทุกคัน ส่วนรถจักรยานยนต์ให้ไปซื้อคันใหม่ ต่อมา นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ หัวหน้าศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 สาขาจังหวัดเชียงใหม่ และประธานสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย (ส.ปอ.ท.) ได้มาร้องเรียนยื่นหนังสือต่อสำนักพระพุทธศาสนาเชียงใหม่ เพื่อให้ตรวจสอบพระดังกล่าว ถึงเรื่องพฤติกรรมไม่เหมาะสม นั้น

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 19 มิ.ย. ครูบาดังกล่าว พร้อมกับพระลูกวัด และคณะกรรมการวัดจำนวนหนึ่ง ได้เข้าพบคณะสงฆ์และเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อชี้แจงและให้ปากคำกรณีถอยรถชนรถชาวบ้าน ซึ่งในเบื้องต้นนั้น ครูบา อ้างว่ามาหาน้องชายที่คอนโดฯ และมาหาซื้อของเพื่อขึ้นไปทำพิธีทำบุญที่วัด ทั้งนี้จากการตรวจสอบห้องที่ครูบากล่าวอ้าง พบว่าไม่มีใครอยู่แต่อย่างใด ไฟฟ้าก็ถูกตัดแล้ว ห้องดังกล่าวนั้นเป็นห้องของใคร ทางนิติกรคอนโดฯ กำลังตรวจสอบ นอกจากนี้ยังได้มีการตรวจสอบเรื่องเงินบริจาคการทำบุญ เพราะมีวัดจาก กทม. แจ้งมาว่า ได้มอบเงินหลายล้านให้กับทางวัดแล้ว แต่เงินไม่เข้าบัญชีวัด การก่อสร้างวิหาร การบุกรุกพื้นที่ป่า และการถูกร้องเรียน

ทั้งนี้ ในเบื้องต้น ทางเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่และคณะสงฆ์ เตรียมดำเนินการปลด ครูบาดังกล่าวออกจากตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัด ตามความผิดระเบียบสงฆ์ที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังจะได้มีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบทรัพย์สินของวัดทั้งหมด รวมถึงเงินบริจาคการทำบุญ เรื่องการสร้างวิหารไม่ยอมแจ้งให้กับหน่วยงานท้องถิ่นและทำการก่อสร้างเลย และเรื่องการบุกรุกพื้นที่ป่า หากพบมีการกระทำผิดกฎหมาย ก็ว่ากันไปตามกฎหมายบ้านเมือง

สำหรับเรื่องที่ว่าพระสงฆ์ดังกล่าวสำนึกผิด และมากราบลาเพื่อขอลาสิกขาบท คิดว่า เรื่องการลาสิกขาบท ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ การที่พระสงฆ์จะขอลาสิกขาบท จะเป็นที่ไหนก็ได้ เมื่อไหร่ก็ได้ เรื่องสำคัญอยู่ที่เรื่องเงิน เรื่องทรัพย์สินของวัด ที่จะต้องเคลียร์ให้ลงตัว อย่างไรก็ตาม ทาง ครูบา และลูกศิษย์ ขอกลับวัดไปก่อน เพื่อปรึกษาหารือกันอีกครั้ง.