เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. จากกรณี 4 ชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นตำรวจ บุกเรียกเก็บส่วยสติกเกอร์ร้านขายกล้วยทอดย่านบางใหญ่ จ.นนทบุรี เดือนละ 3,500 บาท หลังพบลูกจ้างเป็นชาวต่างด้าว ก่อนโดนชาวบ้านถ่ายคลิปรีบเผ่นหนีไป ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ร้านกล้วยแขกแห่งหนึ่งใน ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อสอบถามถึงกรณีดังกล่าว พบ น.ส.อติกานต์ หรือ แหว๋ว พุ่มเหล็ก อายุ 46 ปี เจ้าของร้านขายกล้วยทอด เล่าว่า เหตุการณ์เกิดเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 12.55 น. น้องที่ร้านได้มาบอกกับตนว่า เดี๋ยววันนี้ช่วงประมาณ 10 โมงกว่าๆ จะมีคนเข้ามาเก็บเงินพร้อมกับยื่นสติกเกอร์รูปสิงโตอันเล็กๆ แล้วมีตัวหนังสือเขียนอยู่ด้านหลังว่า “มิถุนายน” พร้อมกับมีลายเซ็นกำกับอยู่ด้านล่าง ตนก็งงว่าใครจะมาเก็บเงิน แล้วจะมาเก็บเงินค่าอะไร ถามน้องก็บอกไม่รู้เรื่อง แค่มีผู้ชายเดินเข้ามาคุยแล้วมอบสติกเกอร์นี้ให้มา พอเวลาประมาณเกือบบ่ายโมง ก็มีกลุ่มชายประมาณ 4 คน ขับรถเข้ามาจอดหน้าร้านอ้างตัวว่าเป็นตำรวจมาขอเก็บเงินประจำเดือน ซึ่งก่อนหน้านี้ตนไม่เคยต้องจ่ายเงินให้ใคร สติกเกอร์แบบนี้ก็ไม่เคยเห็นมาก่อน
‘ตร.บางแม่นาง’ เร่งตรวจสอบ 4 ชายฉกรรจ์ อ้างเป็นตำรวจรีดส่วยเเม่ค้าขายกล้วยทอด
จากที่เห็นหน้าคิดว่าไม่น่าจะใช่คนในพื้นที่ เพราะไม่คุ้นหน้าเลย เพราะตนเปิดร้านขายมานานกว่า 1 ปีแล้ว กลุ่มผู้ชายดังกล่าวมีรูปร่างหน้าตาดูดี ดูคล้ายตำรวจ โดยนั่งรถมากันทั้งหมด 4 คน ขับรถกระบะยี่ห้อฟอร์ด สีเทา แต่ไม่มีใครลงจากรถ ทำให้ตนเห็นหน้าไม่ชัด พอบอกให้เขาลงจากรถมาคุยกัน เขาก็ไม่ลง ตนอยากรู้เหตุผลที่มาเก็บเงินที่ร้านของตนทำไม ก็ไม่ยอมตอบ พอตนยืนยันว่าไม่ให้เงิน เขาก็ขับรถออกไปเลย ตอนนี้รู้สึกกังวลในเรื่องของความปลอดภัยมากกว่า เพราะเราไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ตอนนี้ก็มีกลุ่มคนหลายคนเข้ามาหาตนทั้งนักข่าว ทั้งตำรวจ แต่ก็ต้องเปิดร้านขายของทุกวัน เพราะตนก็ต้องกินต้องใช้ จะเจออะไรก็ต้องเจอ และเมื่อคืนวันที่ 20 มิ.ย. ตนได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแม่นาง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ สภ.บางแม่นาง เพื่อสอบถามความคืบหน้าในกรณีดังกล่าว ซึ่งในช่วงเช้าวันนี้ ผกก.สภ.บางแม่นาง ติดเข้าร่วมประชุมไม่สามารถให้สัมภาษณ์ได้ เพียงแต่ให้ข้อมูลว่า จากกรณีดังกล่าวได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว ทั้งนี้แบ่งเป็น 2 ประเด็นคือ อาจจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง แต่เป็นตำรวจนอกพื้นที่ กับคนมาแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องก่อน เบื้องต้นตรวจสอบแล้ว ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่แน่นอน.
