จากกรณี ส.ส.กทม. ก้าวไกล ถูกแฟนสาวเพิ่งคบกันได้แค่เดือนเศษ โร่แจ้งตำรวจโรงพักบ่อวิน จ.ชลบุรี เอาผิด หลังโดนซ้อมน่วมในรถชกหน้า-ดึงหัวซ้ำปามือถือทิ้งข้างถนน จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนแรง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เรื่องร้ายแรง! ‘ก้าวไกล’สั่งเร่งสอบ ‘ส.ส.’ซ้อมสาวน่วมเร็วที่สุด

ฉาวสาวโผล่แจ้งจับ ส.ส.ก้าวไกล ซ้อมน่วมในรถ ‘ชกหน้า-ดึงหัว’

ความคืบหน้าล่าสุดผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์ออนไลน์” ติดต่อไปยังดาราและนางงามดัง บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ถึงประเด็นดังกล่าว โดยสอบถามถึงเคสการทำร้ายร่ายกายที่เกิดขึ้นในไทยว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างไรบ้าง

บุ๋ม เผยว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นได้อ่านข่าวผ่านๆแล้วค่ะ แต่ยังไม่ได้ลงรายละเอียดมากนักว่าเป็นอย่างไร เบื้องต้นเราต้องรอข้อเท็จจริงจากทั้งสองฝ่ายก่อน ว่าเป็นมาอย่างไร เอาจริงๆ เคสการทำร้ายร่างกายไม่ได้มีเฉพาะเรื่องของนักการเมืองแบบที่พูดถึงเท่านั้น แต่มีเคสนี้เกิดขึ้นเยอะมากในปัจจุบัน ยิ่งหลังจากโควิด คนมีปัญหาความเครียดและเศรษฐกิจ ทำให้เกิดเคสการทำร้ายร่างกายเยอะมากขึ้น โดยหลายคนไม่ยอมรับว่าตนเองมีปัญหาทางจิต ทำให้ไม่ได้มีการแก้ไขปัญหานี้และเกิดเป็นปัญหาต่อมา โดยการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น จากเรื่องของความรุนแรง อย่างแรกเราต้องดูความสัมพันธ์ของเขาและสภาวะจิตใจก่อน คือทางองค์กรทำดีของบุ๋ม เราไม่สนับสนุนการทำร้ายร่างกายหรือความรุนแรงทุกรูปแบบอยู่แล้ว ต่อให้คนผิดจะรับปากว่าจะไม่ทำอีก แต่จากสถิติของเราคนที่บอกว่าไม่ทำอีก จะมีการกระทำที่เพิ่มขึ้นและรุนแรงกว่าเดิมด้วย”

แต่กับกรณีในข่าวนั้นมันค่อนข้างแตกต่างกัน ตรงที่เขาเพิ่งคบกันเดือนกว่า อาจจะทะเลาะกันแต่เราไม่รู้รายละเอียดว่าหน้างานเกิดอะไรขึ้น ทำให้ไม่สามารถตอบได้ แต่กรณีแบบนี้เราจะดูข้อเท็จจริงก่อน เพราะเราต้องแยกเป็น 2 กรณีก่อนว่า 1. มีการบรรดาโทสะจากอะไร มีการยั่วยุหรืออะไรก่อนการทำร้ายร่างกายไหม ต่อมา 2.เรื่องการไม่ทำร้ายร่างกาย คืออย่างที่เรียนไปเราไม่สนับสนุนการทำร้ายร่างกายทุกรูปแบบค่ะ ยิ่งกรณีนี้เป็น สส.ของพรรคดังด้วย ต้องพูดกันตามตรงว่า สส.ก็เหมือนกับดาราเป็นคนที่มีแสง เป็นคนที่ทุกคนคาดหวังเป็นโมเดลหรือแบบอย่างของคน ซึ่งไม่ว่าจะทำอะไรก็ถูกสนใจอย่างแน่นอน ส่วนประเด็นเรื่องคนมองว่าก่อนหน้านี้ สส.ของพรรคนี้มีคดีเมาแล้วขับและมาเป็น สส.ของพรรคอีกครั้งที่มีประเด็นนี้เกิดขึ้น ทำให้สังคมมองว่าเป็นเพราะเจเนอเรชั่นหรือเปล่าที่เด็กลงทำให้เกิดปัญหาความรุนแรง อันนี้บุ๋มว่าไม่เกี่ยวเพราะในสมัยก่อน บุ๋มเองก็เคยวิ่งหนี สส.พรรคดังจากโรงแรมมาแล้วเพราะโดนล่อลวงไป ดังนั้นใช้เจเนอเรชั่นมาตอบเรื่องนี้ไม่ได้ เพียงแต่ปัจจุบันเรามีสื่อที่ออกมาแฉเรื่องนี้ได้ แต่สมัยก่อนไม่มี และคนก็เกรงกลัวอำนาจของนักการเมืองทำให้มีปัญหานี้แต่ไม่มีคนออกมาพูดนั่นเอง ดังนั้นบุ๋มก็อยากจะฝากให้พรรคทุกพรรคเลยค่ะดูแล สส.ของตนเองให้ดี โดยเฉพาะเรื่องความประพฤติเพื่อเป็นแบบอย่างให้คนในสังคมต่อไปค่ะ”

ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม boompanadda