เมื่อวันที่ 8 ก.ค. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. หน.PCT ชุดที่ 5 , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. รอง หน. PCT ชุดที่ 5 พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ ทองแพ ผกก.กลุ่มงานสอบสวน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 และชุดสืบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.) นำกำลังจับกุมตัว นายสนธิชัย อยู่สุภาพ หรือ เจ๊เล็ก หรือบัว อายุ 60 ปี พักอาศัยย่าน บางแวก เขตภาษีเจริญ กรุงเทพ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.2007/2566 ลงวันที่ 27 มิ.ย.66 ข้อหา”พยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้และกระทำอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยใช้อวัยวะอื่นซึ่งไม่ใช่อวัยวะเพศล่วงล้ำอวัยวะเพศของบุคคลนั้น” จับกุมได้ที่ ห้องพักไม่มีเลขที่ ชุมชนริมทางรถไฟสายแปดริ้ว แขวงสี่แยกมหานาค เขตดุสิต กรุงเทพ ขณะอยู่กับหญิงสาวรายหนึ่ง

นายสนธิชัย ผู้ต้องหา มีพฤติกรรมแกล้งทำตัวเป็นสาวประเภทสองแล้วอ้างว่าเป็นโมเดลลิ่งหานางแบบ นักร้อง นักแสดง มักตระเวนหาเหยื่อเป็นหญิงสาววัยรุ่นหน้าตาดี ตามห้างสรรพสินค้า และหลอกว่าสามารถพาเข้าวงการบันเทิงได้ จากนั้นจะอ้างพาไปแคสติ้งที่โรงแรม แล้วลงมือข่มขืนเหยื่อ และสร้างความแยบยลเนื่องจากเหยื่อทุกรายไม่มีใครทราบชื่อผู้ต้องหา รู้เพียงหน้าตาเท่านั้น จากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาเคยถูกตำรวจชุดสืบนครบาลจับกุมเมื่อปี 2558 ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราฯ ก่อเหตุกว่า 14 คดี และสารภาพไว้ว่า “ทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ครั้ง” เหยื่อมีทั้งข้าราชการ ผู้บริหารบริษัทดังใหญ่ๆ และนักศึกษาระดับปริญญาตรี ปริญญาโท ที่มีเงินโดยจะใช้เวลาพูดคุยหว่านล้อมรายละ 2 นาที ล่าสุดพ้นโทษออกมาเมื่อ 20 พ.ค. 65 พบเหยื่อไม่ต่ำกว่า 30 ราย แต่ส่วนใหญ่ไม่กล้าแจ้งความเนื่องจากอับอาย

ต่อมา พล.ต.ต.ธีรเดช ผบก.สส.บช.น.จึงสั่งการชุดสืบนครบาลแกะรอยจากลายเซ็น อันเป็นเอกลักษณ์ของผู้ต้องหา กระทั่งเมื่อวันที่ 22 เม.ย.66 ที่ผ่านมาพบว่าได้ก่อเหตุหลอกหญิงสาวรายหนึ่งในห้างดังย่านลาดพร้าว อ้างตนชื่อบัวเป็นหุ้นส่วนของห้าง เป็นแมวมองหานางแบบ ก่อนใช้จิตวิทยากิริยาท่าทางสาวประเภทสอง พาเหยื่อไปที่ลับตาของห้างเพื่อขอดูรูปร่างและขอให้พาไปดูห้องพักเพื่อประเมินสภาพแวดล้อม ก่อนลงมือข่มขืนเหยื่อแต่ไม่สำเร็จ แล้วหลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงกระจายลงพื้นที่แฝงตัวตามห้างในพื้นที่ กทม.กว่า 2 สัปดาห์ กระทั่งพบผู้ต้องหามีท่าทีคล้ายกำลังนั่งมองหาเหยื่อเด็กผู้หญิงและเข้าไปพูดคุยโดยที่ไม่รู้จัก เจ้าหน้าที่จึงใช้สายลับเป็นหญิงสาวเพื่อย้อนรอยผู้ต้องหากระทั่งสามารถจับกุมตัวไว้ได้

จากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยถูกจับ ตั้งแต่ ปี 2535- 2552 เจ๊เล็ก เปลี่ยนงานมาแล้วประมาณ 15 ที่ ทำมาตั้งแต่ ก่อสร้าง คนขับรถขนส่ง โรงงานชิ้นส่วนรถยนต์ เครื่องจักร บริษัทที่ปรึกษา จัดหางาน รปภ. งานติดตั้งผ้าม่านและแต่ละที่ส่วนใหญ่จะทำงาน ไม่เกิน 1-5 เดือน ก็เปลี่ยนงานใหม่ ส่วนใหญ่จะวนเวียนหางานเปลี่ยนไปเรื่อยแต่ในพื้นที่ กทม. ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง กระทั่ง พ.ศ.2552 ได้เริ่มเข้ามารู้จักในคนแวดวงการบันเทิงและ “ผุดไอเดียวิปริต” หลอกข่มขืนเหยื่อหญิงสาวผู้ที่อยากเข้าวงการบันเทิง แม้เพิ่งพ้นโทษมาไม่นานก็มาก่อเหตุซ้ำแฝงตัวในโรงเรียนสอนร้องเพลงกระทั่งถูกจับ

จากการสอบสวนนายสนธิชัย เบื้องต้นให้การภาคเสธ อ้างว่าต้องมีกล้องวงจรปิดมาเป็นหลักฐาน และสาวๆยินยอมพร้อมใจเอง เมื่อธุรกิจไม่สำเร็จจึงถูกแจ้งความ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อจึงนำตัวส่ง สน.บางซื่อ แจ้งข้อหาตามหมายจับดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “แผนประทุษกรรมคนร้ายจะใช้ “วันเสาร์-อาทิตย์” สรรหาเหยื่อตามห้างสรรพสินค้า หรือสถานที่ต่างๆที่เดินทางไป และคัดเลือกเหยื่อที่เป็นหญิงสาววัยรุ่น หน้าตาดี “ที่มีความใฝ่ฝันจะเป็นนางแบบ หรือดารานักแสดง” จากนั้นจะเข้าตีสนิทโดย “แสร้งเป็นสาวประเภท2” และใช้ตัวตนปลอมโดยอ้างว่าตนเองเป็นโมเดลลิ่งสามารถพาเข้าวงการบันเทิงได้ เมื่อเหยื่อหลงเชื่อก็จะถูกพาเข้าโรงแรมโดยจะอ้างว่าไปเพื่อ “ดูรูปร่างสัดส่วน” หรือการ “แคสติ้ง” ซึ่งความเป็นจริงเมื่อไปถึงที่โรงแรมก็จะลงมือข่มขืนเหยื่อ และเหยื่อเกือบทั้งหมดไม่กล้าแจ้งความ หรือ ไม่ทราบชื่อว่าคนร้ายเป็นผู้ใด ผมไม่ต้องการให้คนแบบนี้เพ่นพ่านในสังคม และต้องการให้เหล่าหญิงสาวที่เคยตกเป็นเหยื่อได้รับความยุติธรรม จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้เคยตกเป็นเหยื่อโปรดแจ้งข้อมูลมาที่เพจ “สืบนครบาล IDMB” เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมให้คำแนะนำตลอด 24 ชั่วโมง แม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์แต่หากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.”