เมื่อวันที่ 15 ก.ค. จากกรณีที่นายอำเภอโพทะเล จ.พิจิตร ปฏิบัติการทวงคืนวัดให้กับเจ้าอาวาส วัดหิรัญญาราม หรือ วัดบางคลาน เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่สนธิกำลังพยายามบุกเข้าไปเพื่อจะเปิดประตูที่กลุ่มอดีตเจ้าอาวาสองค์เก่าบุกยึดวัดและล็อกประตูไว้ทั้งหมด 6 ด้าน เพื่อไม่ให้เจ้าอาวาสองค์ใหม่เข้าวัด โดยนายอำเภอได้นำ อส.ตั้งแถว มีโล่กำบังเพื่อเปิดทางเข้าในด้านประตูที่ 3 ของวัด ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังพยายามเข้าไปกลับถูกกลุ่มชาวบ้านที่อยู่ในวัดระดมยิงด้วยหนังสติ๊กลูกหินลูกแก้วและลูกกระสุนที่ปั้นจากดินก้อนหิน ท่อนไม้ ใช้ปืนลมยิงใส่ ส่งผลให้นายอำเภอ รองประธานมูลนิธิวัดหลวงพ่อเงิน เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บกว่า 10 ราย รถยนต์ของเจ้าหน้าที่กระจกแตกเสียหาย
ล่าสุด พยนต์ อัศวพิชยนต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า “หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่วัดบางคลานเพื่อจะไปทวงคืนวัดให้เจ้าอาวาสวัดองค์ ใหม่ จนเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก รถยนต์หลายคันได้รับความเสียหาย ซึ่งผมเองได้ให้หยุดปฎิบัติการก่อนชั่วคราว ทำไปจะเพิ่มความแตกแยกแต่จะหันไป ทางดำเนินคดีมากกว่า พร้อมสั่งให้นายอำเภอและวัดต้องดำเนินคดีทุกคนที่ขัดขวาง จากเหตุการณ์มีแกนนำทั้งใหม่และเก่าซึ่งผู้กระทำผิดซ้ำ ศาลมีหมายเรียกให้ไปไตร่สวนก็ไม่ไป ก็ต้องออกหมายจับ ถ้าทำผิดซ้ำก็ต้องติดคุกไป ทุกคนรู้ใครสั่งการอยู่เบื้องหลัง ซึ่งขณะนี้ผมเองสั่งให้นายอำเภอรายงานไปทางหน่วยเหนือไปทางเจ้าหน้าที่กองทัพบก กระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอความช่วยเหลือและจะได้มีการวางแผนกันใหม่ ที่จะได้นำตัวเจ้าอาวาสวัดปฏิบัติงานในวัด”
ฮือต้านไม่ให้เจ้าอาวาสเข้า ‘วัดบางคลาน’ ฝ่ายปกครองนำฝ่าเปิดทาง
ขณะที่บรรยากาศวัดหิรัญญาราม หรือ วัดบางคลาน ทางวัดยังมีการเปิดประตูวัดตามปกติเพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้ามากราบไหว้หลวงพ่อเงิน แต่ ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเนื่องจากเกรงปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นภายในวัด ทำให้วัดเงียบเหงารวมถึงบรรดาร้านค้าที่อยู่ในชุมชน บริเวณรอบวัดที่ประกอบกิจการ ร้านค้า ร้านอาหาร ต้องขาดรายได้ จากนักท่องเที่ยว
โดยผู้ประกอบการร้านค้าหน้าวัดบางคลาน กล่าวว่า ในช่วงทุกวันหยุดจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในวัด แต่หลังมีเหตุการณ์ทำให้นักท่องเที่ยวน้อยลงจนส่งผลกระทบกับร้านค้าที่ขายของไม่ได้ และอยากให้เร่งแก้ไขหาข้อยุติปัญหาความขัดแย้งให้วัดคืนกลับมาในสภาพปกติตามเดิม
ด้านชาวบ้านที่อยู่ในวัด กล่าวว่า อยากให้ช่วยแก้ไขด้วยสันติวิธี แต่ด้วยวันที่เกิดเหตุการณ์ทางหน่วยงานมีการระดมเจ้าหน้าที่มาจำนวนมากจึงทำให้ชาวบ้านหวาดระแวง ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่อยากให้แก้ไข้หาข้อยุติ การพูดคุยกับผู้ที่เกี่ยวข้องและขอให้ทำตามแนวทางที่ชาวบ้านต้องการเปลี่ยนเจ้าอาวาสที่เข้ามาปฏิบัติงานในวัด ซึ่งหากไม่มีการแก้ไขข้อพิพาทเร่งด่วนจะทำให้เกิดผลกระทบกับชุมชนทั้งการใช้สถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาและความเป็นอยู่ของชุมชน
