เมื่อวันที่ 21 ก.ค. จากกรณีคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญอุ้มฆ่าหั่นศพ นายฮันส์ ปีเตอร์ แรลเตอร์ มัค อายุ 62 ปี นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ชาวเยอรมัน เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา ต่อมาตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 4 คน เป็นชาวเยอรมัน 3 คน และชาวเชื้อชาติปากีสถาน สัญชาติไทย 1 คน ส่วนสาเหตุปมสังหารมาจากเรื่องการประสงค์ต่อทรัพย์ โดยตัวการสำคัญในคดีนี้ คือ นายโอลาฟ ธรอสเทน บริงก์มันน์ อายุ 52 ปี ชาวเยอรมัน 1 ในผู้ต้องหา พบว่า เป็นสมาชิกแก๊ง เอาท์ลอว์ ระดับสั่งการ ตามที่มีข่าวเสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางมายัง สภ.เมืองพัทยา เพื่อแถลงข่าวการจับกุม นายโทมัส จินเนอร์ อายุ 39 ปี สัญชาติออสเตรีย พร้อมหมายจับศาลจังหวัดพัทยา เลขที่ 380/2566 ในข้อกล่าวหา “ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ และเผยแพร่ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน”

สำหรับ นายโทมัส จินเนอร์ ชาวออสเตรีย แนวทางการสืบสวนตำรวจพบว่า เป็นหัวหน้าแก๊งเอาท์ลอว์ (OUTLAWS) ในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ค่อนข้างมีอิทธิพลในหมู่ชาวต่างชาติโซนทวีปยุโรปที่มาอาศัยในประเทศไทย โดยตำรวจนำหมายค้นเข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 55/57 หมู่ 13 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยภายหลังควบคุมตัว และตรวจค้นภายในบ้าน ยึดเสื้อกั๊กหนัง คล้ายกับเสื้อประจำตำแหน่งของแก๊ง และเข็มกลัดประจำตำแหน่งของแก๊ง เป็นรูปนกอินทรี ด้านหลังปักชื่อแก๊งเอาท์ลอว์ และสัญลักษณ์แก๊งประจำภูมิภาคทวีปเอเชีย ซึ่งนายโทมัส เองก็ให้การรับยอมว่า เป็นหัวหน้ากลุ่มเอาท์ลอว์จริง ส่วนเรื่องหมายจับ พบว่าเป็นเรื่องเมื่อปี 2560 ในข้อหาฉ้อโกง เรื่องบาร์เบียร์ โดยเหตุเกิดในท้องที่ สภ.เมืองพัทยา

ขณะเดียวกันตำรวจยังได้เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 21/204 หมู่บ้านโชคชัยการ์เด้นโฮม 2 ต.หนองปรือ อ.บางละมุงจ.ชลบุรี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายแดนนี่ โรห์ด อายุ 42 ปี สัญชาติเยอรมัน หนึ่งในสมาชิกแก๊งเอาท์ลอว์ เบื้องต้นจากการตรวจค้นบ้านไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย พบเพียงว่า นายแดนนี่ มีปัสสาวะสีม่วง จึงถูกควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย

นอกจากนี้ตำรวจ ตม. ยังได้มีเบิกวีซ่าและหนังสือเดินทางชาวเยอรมัน 2 คน ซึ่งเป็นสมาชิกแก๊งเอาท์ลอว์ ที่อาศัยอยู่ในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมทั้งตรวจยึดรถจักรยานยนต์ ฮาร์เล่ย์ เดวิดสัน 4 คัน และรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ 1 คัน เพื่อตรวจสอบที่มาว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ รวมถึงยึดเสื้อผ้าและตราสัญลักษณ์ต่างๆ ของแก๊งเอาท์ลอว์ได้อีกจำนวนมาก

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากกรณีเคสฆ่าหั่นศพนักธุรกิจชาวเยอรมัน พบว่ามีการรวมกลุ่มกันของกลุ่มนอกกฎหมาย ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดหลายประเภท เช่น ยาเสพติด การค้ามนุษย์ เป็นต้น เบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.2, สตม. และท่องเที่ยว ร่วมกันตรวจสอบกลุ่มเอาท์ลอว์ และกลุ่มแก๊งอื่นๆ ที่มีความสุ่มเสี่ยงที่จะกระทำผิดในราชอาณาจักร สำหรับกลุ่มเอาท์ลอว์ เบื้องต้นได้มีการจับกุมหัวหน้าแก๊งซึ่งมีหมายจับคดีฉ้อโกง รวมทั้งสมาชิกที่มีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเพิกถอนวีซ่าของสมาชิกที่พบว่ามีความสุ่มเสี่ยงที่จะกระทำผิด จากนี้จะได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจตราและสอดส่องกลุ่มเหล่านี้ หากพบการกระทำผิดอื่นใด จะดำเนินคดีจนถึงที่สุด ขอฝากไปยังพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชน หากพบการกระทำผิดของกลุ่มเหล่านี้ สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน