เมื่อวันที่ 21 ก.ค. ที่ ห้องประชุม ศูนย์ราชการฯ อาคารเอ ชั้น 2 ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นางพิชญา ธารากรสันติ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย น.ส.พิทยาภรณ์ ชูรัตน์ รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกันแถลงความคืบหน้าคดี 3 คดี ได้แก่ คดีฉ้อโกงแชร์ Forex-3D คดีหมูเถื่อน 161 ตู้ คดีหุ้นสตาร์ค พร้อมตอบข้อซักถามสื่อมวลชน

สำหรับความคืบหน้าคดีหมูเถื่อนนั้น น.ส.พิทยาภรณ์ ชูรัตน์ รองโฆษกดีเอสไอ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการนำไปทำลาย ซึ่งดีเอสไอก็ได้เร่งรัดการสอบสวนสืบสวน อีกทั้งอธิบดีดีเอสไอได้มีข้อกำชับให้เร่งทำสำนวนคดี ส่วนรูปแบบการกระทำความผิด เป็นการนำเนื้อหมูเข้าจากต่างประเทศ และขนเข้ามาที่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี และยังสำแดงเท็จเป็นสินค้าแช่เเข็งชนิดอื่น ก่อนมีห้องเย็นมารับสินค้าเพื่อกระจายสินค้าไปยังพ่อค้าคนกลาง และนำไปขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ รวมถึงตอนนี้ดีเอสไอได้แต่งตั้งที่ปรึกษาคดีพิเศษ พล.ต.ท.วัลลภ ประทุมเมือง ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในคดีความลักลอบขนสินค้าเข้าราชอาณาจักร เพื่อให้คำแนะนำแก่พนักงานสอบสวน และเตรียมขยายผลไปยังเบื้องหลังขบวนการ อย่างไรก็ตาม อธิบดีดีเอสไอ ยังได้สั่งรื้อสำนวนคดีเพื่อเสาะหาคนที่อยู่เบื้องหลัง และทางการข่าวยังพบว่า ปัจจุบันก็ยังมีการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเข้ามาในไทย โดยเป็นพื้นที่ภาคใต้ ดังนั้น หากบุคคลใดรู้เบาะแส สามารถแจ้งมายังดีเอสไอได้

น.ส.พิทยาภรณ์ เผยอีกว่า ส่วนกรณีที่วานนี้ (20 ก.ค.) เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรได้เข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษนั้น ได้มีการหารือให้ข้อมูล ให้รายละเอียด เช่น บริษัทใดเป็นผู้นำเข้าสินค้าบ้าง พร้อมมอบพยานเอกสารเพิ่มเติม มีการตรวจเลขตู้คอนเทเนอร์ ถือว่าการเข้าให้ปากคำในฐานะผู้กล่าวหาของเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร เป็นประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวน พิจารณาคดีของดีเอสไออย่างมาก

น.ส.พิทยาภรณ์ เผยถึงขั้นตอนถัดไปว่า จะมีการกำหนดกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งกลุ่มชิปปิ้งเอกชน 11 แห่ง กลุ่มบริษัทสายเรือ 17 แห่ง และพยานอื่นๆ โดยจะมีการทยอยออกหมายเรียกในฐานะพยานก่อน เนื่องจากดีเอสไอเพิ่งได้รับสำนวนคดีจากตำรวจ สภ.แหลมฉบัง และได้ตรวจสำนวนแล้วพบว่า ยังขาดเหลือบางประเด็น จึงจะต้องมีการเรียกสอบปากคำตามขั้นตอน

นอกจากนี้ สำหรับการทำลายฝังกลบเนื้อหมูเถื่อน 161 ตู้นั้น น.ส.พิทยาภรณ์ กล่าวว่า ล่าสุดบริษัทสายเรือส่วนใหญ่ ได้เข้ามาร่วมสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการทำลายเนื้อหมูของกลาง โดยทางกรมปศุสัตว์ได้คำนวณค่าฝังกลบทำลายจำนวนประมาณ 12 ล้านบาท โดยจะเป็นค่าสถานที่ฝังกลบ ส่วนการทำลาย คาดว่าจะมีการดำเนินภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ปรากฏว่าของกลางสูญหาย เพราะจากการเปิดตู้คอนเทเนอร์ มีจำนวนหมูตามบันทึกคือ 4.5 ล้านกิโลกรัม

น.ส.พิทยาภรณ์ เผยว่า หลังจากนี้จะมีการขยายผลตรวจสอบเรื่องการลักลอบนำเข้าซากสุกรในพื้นที่ภาคใต้ด้วย ส่วนถ้า 161 ตู้นี้มีไปเกี่ยวข้อง ดีเอสไอก็จะรื้อทั้งขบวนการ พร้อมขยายผลให้ถึงคนที่อยู่เบื้องหลัง นอกจากนี้ ในชั้นการสืบสวนพบว่ามีนายทุนประมาณ 2-3 ราย โดยพนักงานสอบสวนมีเบาะแสแล้ว ทราบชื่อครบ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการแสวงหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ส่วนนายทุนเหล่านี้ จะมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องอย่างไร ขอสงวนในรายละเอียดไว้ก่อน เนื่องจากอาจกระทบกับสำนวนคดีได้.