กรณีพบศพนายไพบูลย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี และ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 10 ปี นักเรียนชั้น ป.4 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ผูกคอติดกับตัวบ้านลักษณะศพหันหน้าเข้าหากัน ที่บ้านพัก พื้นที่ หมู่ 2 ต.หินเหล็กไฟ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ สภาพศพเน่าเปื่อย คาดเสียชีวิตมาประมาณ 3 วัน โดยชาวบ้านมาพบศพเมื่อวันที่ 3 ส.ค. เบื้องต้นสันนิษฐานสาเหตุนายไพบูลย์ เครียดเมียหนีไปมีสามีใหม่ ส่วนตัวเองป่วยโรคหอบหืด ต้องเลี้ยงลูกสาวด้วยความยากลำบาก ซํ้าน้ำไฟที่บ้านถูกตัดใช้ชีวิตอยู่ในความมืดนานกว่า 3 ปี จนคิดสั้น จับลูกสาววัย 10 ขวบ ผูกคอ ก่อนฆ่าตัวตายตาม ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

สิ้นสุดทางออก! เครียดนํ้าไฟโดนตัด-เมียหนีไปมีผัวใหม่ พ่อฆ่าลูกวัย 10 ขวบก่อนผูกคอตายตาม

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุอย่างละเอียด เจ้าหน้าที่พบแบบฟอร์มใบขอทุนเรียนดีของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.)ที่ น้องเอ ขอมาจากครู แต่ยังไม่ทันกรอกข้อมูลวางอยู่ภายในบ้าน นอกจากนี้ยังพบจดหมายลาตาย ซึ่งคาดว่านายไพบูลย์ เป็นคนเขียนก่อนก่อเหตุ ข้อความว่า “มีคนคิดใหม่อยู่ไปอะไร เกิดแก่เจ็บตายก็เห็นแล้ว เห็นโลกมาหมดแล้ว ตายดีกว่า”พร้อมวาดภาพใบหน้าคน 2 คน ด้านท้ายของจดหมาย เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป