จากกรณีพบชิ้นส่วนมนุษย์เพศชาย คล้ายชายชาวต่างชาติ บริเวณท่อนกระดูกเชิงกรานพร้อมอวัยวะเพศชาย 1 ชิ้น สภาพถูกตัดส่วนขาทั้ง 2 ข้างและลำตัวออก โดยมีชิ้นส่วนลำไส้มนุษย์บรรจุอยู่ในถุงขยะที่มีป้ายราคาสินค้าติดอยู่ ที่กองคัดแยกขยะเทศบาลตำบลเกาะพะงัน หมู่ 4 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2566

โดยหลังมีข่าวพบชิ้นส่วนมนุษย์คล้ายชายชาวต่างชาติถูกชำแหละทิ้งถังขยะ ได้มีนายแดเนียล เจโรนิโม อายุ 29 ปี สัญชาติสเปน เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.เกาะพะงัน ว่า นายเอ็ดวิน มิเกล อายุ 44 ปี หมอศัลยกรรม สัญชาติโคลอมเบีย ได้หายตัวไปหลังจากเดินทางมาถึงเกาะพะงัน ตำรวจสงสัยว่าชิ้นส่วนมนุษย์ดังกล่าวอาจเป็นนายเอ็ดวิน จึงได้ทำการควบคุมตัวนายแดเนียลไว้สอบสวน เนื่องจากเชื่อว่าอาจจะเป็นผู้ก่อเหตุ ด้วยการใช้ พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง หลังพบว่านายแดเนียล ย้ายโรงแรมที่พักโดยไม่แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ หลังจากนั้นได้ขยายผลเข้าตรวจสอบโรงแรมที่พักแห่งใหม่ ที่นายแดเนียล ไปเปิดทิ้งไว้ ซึ่งพบคราบเลือด ไขมันและชิ้นส่วนมนุษย์ในห้องพัก ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

อึ้ง! เหยื่อถูกฆ่าหั่นศพบนเกาะพะงันเป็น ‘หมอวิสัญญี’ ส่วนฆาตกรเป็น ‘เชฟ’ ร้านอาหารชื่อดัง…

เมื่อวันที่ 5 ส.ค. พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 กล่าวว่า หลังการเข้าตรวจสอบที่ห้องพักโรงแรมแห่งหนึ่ง ที่เชื่อว่าเป็นสถานที่ที่นายแดเนียล ก่อเหตุฆ่าหั่นศพนายเอ็ดวิน พบพยานหลักฐานที่เชื่อว่าเป็นชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่พิสูจณ์หลักฐาน ได้ตรวจเก็บเส้นผม ตัวอย่างน้ำ คราบไขมัน และเศษชิ้นเนื้อ ส่งตรวจอัตลักษณ์ที่ จ.ยะลา โดยจะทราบผลตรวจในวันพรุ่งนี้ (6 ส.ค.) ขณะเดียวกันจากการสืบสวนและตรวจสอบกล้องจรปิด พบความเชื่อมโยง ว่านายแดเนียล เป็นผู้ก่อเหตุและอยู่กับผู้ตายเป็นคนสุดท้ายก่อนมาถูกพบชิ้นส่วนมนุษย์ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติหมายจับนายแดเนียลทันที เมื่อทราบผลการตรวจอัตลักษณ์ชิ้นเนื้อ

พล.ต.ท.สุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า จากการพูดคุยกับญาตินายเอ็ดวิน ในเบื้องต้น ทราบว่านายเอ็ดวิน มีอาชีพเป็นแพทย์ศัลยกรรมเฉพาะทาง ด้านการผ่าตัดแปลงเพศ ที่ประเทศโคลอมเบีย และคบหากับนายแดเนียล ซึ่งเป็นเชฟที่มีชื่อเสียงของประเทศสเปน มานานกว่า 1 ปี โดยทราบว่าทั้งคู่ได้นัดมาพบกันที่ อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อร่วมงานฟูลมูนปาร์ตี้ แต่หลังจากที่นายเอ็ดวิน เดินทางมาถึงประเทศไทยแล้ว เดินทางมายัง เกาะพะงัน ญาติไม่สามารถติดต่อได้ และเมื่อสอบถามนายแดเนียล ก็แจ้งว่ายังไม่พบกับนายเอ็ดวิน ซึ่งญาติได้ประสานตำรวจท่องเที่ยวให้เข้าตรวจสอบที่โรงแรมปางวิมาน ซึ่งผู้ตายได้จองไว้ กลับไม่พบทั้งคู่ จนมาตรวจสอบพบว่านายแดเนียล ได้เข้าพักที่โรงแรมดังกล่าวเพียงลำพัง และเช็กเอาต์ออกไปก่อนที่ผู้ตายจะเดินทางมาถึง จนกระทั่งวันที่ 3 ก็มาพบชิ้นส่วนของมนุษย์

ขณะนี้เรายังไม่ทราบแรงจูงใจในการก่อเหตุ แต่เบื้องต้นเชื่อว่าน่าจะเกิดจากความหึงหวง และจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่านายแดเนียล ได้มีการเตรียมการเป็นอย่างดี ด้วยการจัดซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการอำพรางซ่อนเร้นศพ ซึ่งทราบว่าหลังนายแดเนียลถูกควบคุมตัวตาม พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมืองและถูกเพิกถอนวีซ่า นายแดเนียลมีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังไม่ยอมเปิดปากรับสารภาพ ซึ่งตนได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเกรงว่านายแดเนียลจะคิดสั้น

รายงานข่าวแจ้งว่าล่าสุดนายแดเนียล ให้การรับสารภาพแล้วว่า เป็นผู้ลงมือฆ่าหั่นศพนายเอ็ดวิน โดยหลังก่อเหตุได้แยกชิ้นส่วนต่างๆ บรรจุลงในกระเป๋าเดินทางของนายเอ็ดวิน แต่ยังมีส่วนที่ใส่ไม่หมด จึงได้นำใส่ถุงดำไปทิ้งถังขยะ แล้วนำกระเป๋าเดินทางที่บรรจุชิ้นส่วนหัวและอวัยวะอื่นๆ ในกระเป๋าเดินทาง ไปเช่าเรือคยัค ใกล้โรงแรมที่พัก นำไปทิ้งทะเล ซึ่งภายหลังนายแดเนียล ให้การรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังเข้าค้นหากระเป๋าเดินทางดังกล่าว บริเวณชายฝั่งหาดสลัดแล้ว