จากกรณีเพจ “พระจันทร์ลายกระต่าย V3 โพสต์ข้อความ ระบุว่า “ช่วยตำรวจ ภ.8 หน่อยคับ รอง ผบช. ให้ประชาชนทำวัคซีนไซเบอร์ ต้องให้ได้ยอดเยอะแต่แอปค้าง ทำก็ยุ่งยาก ระบบล่มตลอด ที่สำคัญเอาข้อมูลละเอียดของชาวบ้าน ไม่มีใครเต็มใจให้ชาวบ้านต้องขอร้อง ไม่ได้ตามยอดแต่ละ สภ.อีกวันนึงยอดจะเพิ่มคูณ2 วันๆไม่ต้องตรวจกันแล้ว หาแต่ชาวบ้านขอข้อมูลเขาแล้วต้องมาทำเองเพราะเขาทำเข้าระบบยุ่งยากช้า แล้วมีชาวบ้านบอกตั้งแต่ทำไปวันก่อนพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมารู้ข้อมูลหมด พวกผมไม่ต้องทำงานตำรวจกันแล้วต้องมาอ้อนวอนขอร้องชาวบ้านแล้วต้องมาทำให้ เพราะชาวบ้านก็ทำไม่เป็น แล้วยิ่งพื้นที่เล็กๆเอาวันนึง 20-30คน ทุกวัน จะหาจากไหน เครียดกันหมดโดนชาวบ้านไม่ให้บ้าง พูดบ้างว่ายุ่งยาก แถมเอาเลขหลังบัตรเขา ถ้าแอปไม่ล่ม เข้าทำไม่ยุ่งยาก และเข้าใจง่ายยังดีกว่าครับ นี้ไม่เลยช้า ล่ม ชาวบ้านกดไม่เข้าใจสุดท้ายตำรวจก็ต้องทำเองตอบเอง จนชาวบ้านเขาไปพูดกันทั่วแล้ว ว่าจะเอาข้อมูลเขาไปขายหรือเปล่า ช่วยพวกตำรวจผู้ปฏิบัติด้วยนะครับพี่”…

วัคซีนไซเบอร์! ตร.ครวญโดนสั่งบี้ยอดข้อมูล ชาวบ้านผวาต้องกรอกละเอียดยิบ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 เปิดเผยกับเดลินิวส์ ว่า ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติประสบกับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การที่สำนักงานตำรวจมีนโยบายในการเผยแพร่ความรู้ให้ประชาชนได้รู้เท่าทันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน ด้วยการตอบแบบสอบถามวัคซีนไซเบอร์ ซึ่งเป็นเครื่องมือสื่อสารชนิดหนึ่งที่จะทำให้ตำรวจได้ใกล้ชิดพูดคุยกับประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตนเข้าใจว่าในการทำงานของแต่ละหน่วย ไม่เหมือนกัน โดยพื้นที่ บช.ภ.8 ซึ่งมี สภ.ในรับผิดชอบรวมกันทั้งสิ้น 121 โรงพัก ก็พบว่ามีผลปฎิบัติอยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งในการประชุมหัวหน้าสถานี ตนในฐานะผู้บังคับบัญชา ก็ได้มีการติดตามความคืบหน้าของโครงการทุกครั้ง เนื่องจากเห็นว่าเป็นโครงการที่ดี สามารถให้ความรู้กับประชาชนได้ แต่ยืนยันว่าไม่ได้บีบบังคับให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทำผลงานอย่างที่ปรากฏเรื่องร้องเรียนในเพจดังกล่าว

“จากการสำรวจความพึงพอใจของประชาชนที่เขาร่วมวัคซีนไซเบอร์ ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับโครงการ เพราะสามารถให้ความรู้ได้เป็นอย่างดี และสิ่งที่เป็นประโยชน์จากโครงการนี้อีกประการคือ นอกจากจะให้ความรู้ประชาชนแล้ว ยังเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับประชาชนให้ดียิ่งขึ้น ประชาชนก็ไว้ใจตำรวจ ปัญหาที่เกิดขึ้นที่นำไปสู่การร้องเรียน ตนเชื่อว่า อาจจะมีบ้าง เกิดจากความไม่พอใจ ความไม่ใส่ใจส่วนบุคคลและมองว่าเป็นความยุ่งยากของการทำงาน เพิ่มภาระ ให้กับงานหน้าที่ จนนำไปสู่ความอึดอัดใจในการทำงาน ซึ่งตนเข้าใจในส่วนนี้ ซึ่งทาง บช.ภ.8 จะไม่ดำเนินการสืบสวนใดๆ ทั้งสิ้น แต่อยากให้ตำรวจทุกนายมีจิตสำนึกในการบริการ ดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนในทุกมิติ ส่วนวิธีการดำเนินการอย่างไรนั่นขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้นำหน่วยในแต่ละหน่วยว่ามีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเช่นไร ตนยืนยันว่า บช.ภ.8 ไม่เคยกำหนดยอดการเข้าร่วมโครงการ แต่ตนอาจจะเน้นย้ำการปฎิบัติทุกครั้งเพื่อให้เกิดประโยชน์ในการเผยแพร่ข้อมูล “ ผบช.ภ.8 กล่าว

พล.ต.ท.สุรพงศ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนปัญหาแอพฯ ล่ม หรือการทำงานที่ล่าช้าของแอพฯ พบว่าขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว ส่วนกรณีการระบุข้อมูลบัตรประชาชนผู้ทำข้อสอบ และ หมายเลขโทรศัพท์ของผู้แนะนำนั้น เป็นความปรารถนาดีของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ที่ต้องการจะมีรางวัลเพื่อให้เป็นขวัญและกำลังใจกับผู้ร่วมโครงการเท่านั้น ซึ่งในส่วนของภาค 8 ก็เช่นกัน ได้มีการมอบสิ่งของที่ลึกจากโครงการ เป็นการตอบแทนให้กับผู้เข้าร่วมด้วย