เมื่อวันที่ 5 ส.ค. จากกรณีคนร้ายเป็นหญิงรายหนึ่งสวมไอ้โม่งปิดบังใบหน้าสีดำ สวมเสื้อแจ๊กเก็ตสีเขียวขี้ม้า สวมกางเกงขายาวสีดำ รองเท้าคล้ายผ้าใบ เดินถือบางอย่างคล้ายอาวุธแล้วใช้ถุงพลาสติกสีฟ้าห่มหุ้มที่มือขวา จากนั้นจี้บังคับให้พนักงานในร้านทองกิตติมา ที่ตั้งอยู่ภายในซอย C4 ในชุมชนการเคหะเมืองใหม่บางพลี อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ หยิบถาดทองส่งให้ก่อนจะกวาดสร้อยคอทองคำน้ำหนักเส้นละสองสลึงรวม 37 เส้น หลบหนีไป โดยเหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา

ล่าสุด พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางเสาธง พร้อมด้วยฝ่ายสืบสวนได้จับกุม นางวนิดา อายุ 30 ปี หัวหน้าคนงานโรงงานแห่งหนึ่งในอ.บางเสาธง พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำ 28 เส้นที่ซุกซ่อนภายในกระเป๋าซึ่งเก็บไว้ภายในบ้านพัก และชุดที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ โดยผู้ต้องหาจำนนต่อหลักฐานทั้งจากกล้องวงจรปิดและพยานหลักฐานอื่นๆ จากการตรวจสอบพบว่าของกลางสร้อยคอทองคำหายไปบางส่วน นางวนิดา รับสารภาพว่าได้นำสร้อยคอ 5 เส้นไปขายให้กับร้านทองในห้างแห่งหนึ่งในราคาเส้นละ 1 หมื่นบาท ก่อนจะนำเงินไปใช้หนี้สินบางส่วนแล้ว

ด้านสามีของนางวนิดา เปิดเผยว่า ยังช็อกกับการจับกุมภรรยาของตนเองในครั้งนี้ ไม่คิดว่าจะกล้าลงมือก่อเหตุ ช่วงค่ำวานนี้หลังเลิกงานที่บริษัทเดียวกันและยังกลับบ้านพร้อมกันโดยไม่พบพิรุธของภรรยาแต่อย่างใด กระทั่งมาทราบเรื่องว่าภรรยาถูกจับ ส่วนสาเหตุก็คาดว่าจะมาจากหนี้สินในโรงงานหรืออาจะเป็นหนี้นอกระบบ ซึ่งภรรยาไม่เคยบอกอะไรกับตนเอง แต่ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ตนเองก็เคยช่วยใช้หนี้ไปบ้างแล้วบางส่วน

ผกก.สภ.บางเสาธง เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาสารภาพว่าก่อเหตุจริง โดยอ้างว่าต้องหาเงินไปจ่ายค่างวดรถ ค่างวดบ้าน รวมถึงภาระในครอบครัวจึงคิดสั้นลงมือก่อเหตุ ส่วนอาวุธที่นำมาข่มขู่พนักงานตามคลิปวงจรปิดนั้น จากการตรวจสอบพบว่าเป็นชุดกันฝนลักษณะเป็นกางเกงกันฝนสีฟ้านำมาพันม้วนให้ดูคล้ายกับมีอาวุธในการก่อเหตุ เบื้องต้นแจ้งข้อหา ชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะในการหลบหนี ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป