เมื่อเวลา 08.05 น. วันที่ 22 ส.ค. บริเวณหน้าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ถนนราชดำเนินกลางใน ซึ่งเป็นจุดที่ 2 ที่นายทักษิณ จะเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาตามขั้นตอนของกฎหมาย มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ตำรวจ สน.ชนะสงคราม จัดกำลังดูแลความสงบเรียบร้อยโดยรอบศาล ส่วนบริเวณด้านในมีเจ้าหน้าพนักงานตำรวจศาล และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแลความสงบเรียบร้อย
พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 ให้สัมภาษณ์ถึง การเตรียมความพร้อมในการดูแลความสงบเรียบเรียบร้อยว่า เนื่องจากบริเวณนี้ อยู่ในเขตอำนาจศาล การจะกระทำการใดๆ แม้กระทั่งตำรวจ เราก็ต้องได้รับการอนุญาตจากประธานศาลฎีกา ซึ่งก็ได้รับความเมตตาจากศาล
ส่วนการจัดกำลังตำรวจนั้น มีการจัดกำลังในการดูแลรักษา ความสงบเรียบร้อยตามปกติ โดยรอบจะมีการตั้งจุดตั้งด่านจราจร เพื่อคัดกรองมวลชน และประชาชน ที่จะเข้าสู่บริเวณพื้นที่ เบื้องต้นได้เตรียมกำลังตำรวจไว้ประมาณ 100 นาย โดยเป็นกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจในพื้นที่ของกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 โดยจะดูแลพื้นที่โดยรอบของศาลฎีกา ซึ่งจากการข่าวยังไม่พบว่าจะมีกลุ่มบุคคลเข้ามาก่อความวุ่นวายหรือกลุ่มมือที่สาม ส่วนในพื้นที่ของกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 ตามเส้นทางช่วงลงจากทางด่วนยมราช ที่จะมุ่งหน้ามาที่ศาลฎีกา ซึ่งมีจุดสูงข่มหลายจุดนั้น ทราบว่าทางตำรวจชุดสืบสวนของกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ลงพื้นที่ตรึงจุดเสี่ยงและจุดสูงข่มต่างๆ โดยรอบพื้นที่ตามเส้นทางที่จะเดินทางมาที่ศาลแล้วตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ซึ่งจนถึงขนาดนี้ ยังไม่พบเหตุต้องสงสัยใดๆ เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ได้รับรายงานว่ากระบวนการทางศาลใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที
ส่วนการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้แก่ประชาชนนั้น พล.ต.ต.อัฏธพร กล่าวว่า ไม่มีการปิดการจราจรแต่อย่างใด เนื่องจากบริเวณพื้นที่นี้ ยังคงเปิดทำการตามปกติและมีสถานศึกษา จึงใช้วิธีการให้ตำรวจจราจรคอยอำนวยความสะดวกตามจุดทางร่วมทางแยกต่างๆ แทน
สำหรับการเข้ามาของกลุ่มผู้สนับสนุนของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และนายทักษิณ ชินวัตร ขณะนี้ทราบว่าทั้ง 2 กลุ่ม ได้มีการประสานข้อมูลกับทางตำรวจ และยืนยันว่าจะไม่มีการกระทบกระทั่งกัน โดยจะอยู่ตามจุดที่เจ้าหน้าที่จัดไว้ให้ โดยมีข้อมูลรายงานว่า จะมีกลุ่มผู้ชุมนุมผู้สนับสนุนนายทักษิณ ประมาณ 100 คน เดินทางมาให้กำลังใจบริเวณศาลฎีกาในช่วงใกล้เวลาที่นายทักษิณจะเดินทางมาถึง ส่วนกลุ่มของนายสุเทพ จะอยู่ที่ด้านข้างศาล ริมคลองหลอด ซึ่งจากข้อมูลล่าสุดของศาลแจ้งว่า ทางเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ได้นำรถมารอไว้ที่บริเวณศาล หากมีคำพิพากษาเสร็จสิ้นเรียบร้อย ก็จะควบคุมตัวไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตามขั้นตอนที่ได้ซักซ้อมไว้ตั้งแต่เมื่อวานนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อนายทักษิณ มาขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หลังเดินทางกลับประเทศ และมีกระบวนการควบคุมตัวตามขั้นตอนของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเพื่อนำส่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว โดยพานายทักษิณเข้าทางประตูสอง จากนั้นผู้พิพากษาหรือศาล จะสอบถามว่าเป็นบุคคลตามหมายจับศาลในคดีนี้ใช่หรือไม่ ถ้าใช่ก็จะสรุปคำพิพากษาโดยย่อให้ฟังว่า คดีหวยบนดิน ศาลจำคุกกี่ปี คดีทุจริตปล่อยกู้เอ็กซิมแบงก์ โดนโทษจำคุกกี่ปี คดีแก้สัมปทานเอื้อชินคอร์ป โดนโทษจำคุกกี่ปี แล้วออกหมายขัง จากนั้นก็รอเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์มารับตัวไปควบคุมที่เรือนจำ หรือสถานกักขังตามคำพิพากษาของศาล
โดยคาดว่าระยะเวลาการดำเนินการในศาลนั้น จะไม่เกิน 30-45 นาที โดยการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จะไม่เหมือนกับศาลอาญาอื่นๆ ที่จะมีรอบเวลาส่งตัวนักโทษเมื่อสิ้นสุดเวลาราชการ ช่วงเย็นเท่านั้น.
