เมื่อวันที่ 23 ส.ค. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก บช.สอท. กล่าวถึงกรณีได้รับรายงานจากกองบังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยีว่า ตรวจสอบพบผู้เสียหายหลายได้รับข้อความสั้น (SMS) จากหมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่ทราบแหล่งที่มาแจ้งว่า “คุณได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่” พร้อมกับแนบลิงก์ให้เพิ่มเพื่อนทางแอปพลิเคชันไลน์ ใช้ชื่อบัญชีไลน์ว่า Thaid online ซึ่งเป็นชื่อระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลของกรมการปกครอง โดยได้มีการแจ้งเตือนประชาสัมพันธ์แล้วเมื่อ 23 ก.ค.66 ที่ผ่านมา ทั้งนี้เมื่อผู้เสียหายติดต่อไปยังไลน์ดังกล่าว มิจฉาชีพจะหลอกลวงสอบถามข้อมูลเบื้องต้นว่าเป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินดิจิทัลหรือไม่

จากนั้นจะให้ติดตั้งแอปพลิเคชัน “ลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล 10000” ผ่าน Play Store เมื่อทำการติดตั้งเสร็จสิ้น จะหลอกลวงให้ผู้เสียหายทำตามขั้นตอนต่างๆ เริ่มจากการให้ลงทะเบียนกรอกข้อมูลส่วนบุคคล ชื่อ-นามสกุล เลขประจำตัวประชาชนอาชีพ และรายได้ เพื่อตรวจสอบสิทธิ์ ต่อมาจะให้ทำการตั้งค่าให้สิทธิการเข้าถึงโทรศัพท์มือถือ หรือการให้สิทธิควบคุมโทรศัพท์มือถือที่ผู้เสียหายใช้งานอยู่ หลอกลวงให้กรอกรหัส PIN 6 หลัก ที่ผู้เสียหายใช้งานอยู่เป็นประจำรวมไปถึงหลอกลวงให้ทำการสแกนใบหน้า หรือหลอกลวงให้โอนเงินค่าธรรมเนียมในจำนวนเล็กน้อยเพื่อนำรหัสการทำธุรกรรมธนาคารของผู้เสียหายไปใช้แล้วเข้าควบคุมโทรศัพท์ของผู้เสียหายเพื่อโอนเงินออกจากบัญชี

ทั้งนี้ทางบช.สอท. ขอประชาสัมพันธ์ประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ เน้นการสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ส่งข้อความสั้น หรือโทรศัพท์ไปหลอกลวงเอาทรัพย์สินของประชาชนสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นการหลอกลวงที่มิจฉาชีพจะปรับเปลี่ยนหมุนเวียนชื่อหน่วยงานไปตามวันเวลา สถานการณ์ในช่วงนั้นๆ สร้างเรื่องมาหลอกลวงประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการได้รับสิทธิ์ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการของรัฐ การหลอกให้อัปเดตข้อมูล หรือหลอกลวงอย่างไรให้เหยื่อกดลิงก์ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอมของหน่วยงานที่แอบอ้างนั้นๆ ที่ผ่านมาก็ปรากฏในหลายๆ กรณีและยังคงมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อ ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมา นับตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.65–19 ส.ค.66 การหลอกลวงติดตั้งโปรแกรมควบคุมระบบฯ มีประชาชนตกเป็นเหยื่อสูงเป็นลำดับที่ 9 มีจำนวนกว่า 9,460 เรื่อง หรือคิดเป็น 2.38 % ของเรื่องที่มีการรับแจ้งความออนไลน์ทั้งหมด และมีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 820 ล้านบาท