เมื่อวันที่ 25 ส.ค. เจ้าหน้าที่สำนักงานขนส่งจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้ปกครองของนักศึกษาสาว อายุ 17 ปี ระดับชั้น ปวช.1 สาขาอาหารและโภชนาการ วิทยาลัยอาชีวศึกษาแห่งหนึ่งในนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (24 ส.ค.) เวลาประมาณ 11.00 น. ได้รับแจ้งจากวิทยาลัยฯ ว่า บุตรสาวประสบอุบัติเหตุถูกนำตัวส่ง รพ.มหาราช จึงรีบไปตรวจสอบพบว่า บุตรสาวถูกนำเข้าห้องไอซียูเร่งด่วน สอบถามเรื่องราวเบื้องต้นทราบว่า หลังการเรียนภาคปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องอาหารและโภชนาการ ลูกสาวถูกใช้ให้ไปปิดวาล์วแก๊งหุงต้ม แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อถังแก๊สเกิดระเบิดไม่ทราบสาเหตุ ทำให้เปลวไฟคลอกบุตรสาวเกือบทั้งตัว โดยเฉพาะใบหน้า ลำคอ และมือทั้งสองข้าง ล้มลงดิ้นรนด้วยความเจ็บปวด ก่อนถูกนำส่ง รพ.มหาราช

ผู้ปกครอง เผยอีกว่า ขณะนี้ได้ย้ายบุตรสาวมารักษาที่ห้องปลอดเชื้อตึกอายุรกรรมหญิง รพ.มหาราช แล้ว โดยรู้สึกตัวและมีสติรับรู้เป็นอย่างดี แต่ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ในขณะที่ทางวิทยาลัยฯ ยังเงียบไม่ได้ชี้แจงเหตุการณ์เรื่องราวที่เกิดขึ้น รวมทั้งแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด ซึ่งตนและภรรยายังไม่ทราบรายละเอียดข้อเท็จจริงมากนัก แต่ทราบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยหลายคน แต่ที่อาการหนักขั้นสาหัสต้องส่งโรงพยาบาลนั้น มีบุตรสาวตนคนเดียว เชื่อว่าแพทย์จะต้องทำการรักษาและผ่าตัดทำศัลยกรรมใบหน้าและส่วนต่างๆ ที่โดนไฟคลอก คงต้องใช้เวลานานหลายเดือนอย่างแน่นอน ขณะที่ตนและครอบครัวเป็นห่วงบุตรสาว ทั้งเรื่องการเรียนและโฉมหน้า รวมทั้งสภาพจิตใจที่หวาดผวา ย่ำแย่มาก ๆ

ผู้ปกครองกล่าวว่า อยากให้ทางวิทยาลัยฯ ชี้แจงข้อเท็จจริงว่าเหตุการณ์มันเกิดขึ้นได้อย่างไร การที่ถังแก๊งระเบิดในการเรียนวิชาอาหารและโภชนาการแบบนี้ ไม่น่าจะเกิดขึ้น น่าจะมีระบบเซฟตี้อย่างรัดกุมมีประสิทธิภาพมากว่านี้ และควรจะมีแนวทางในการแก้ปัญหา เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก และความรับผิดชอบของทางวิทยาลัยแค่ไหนอย่างไร เบื้องต้นตนจะไปแจ้งความกับพนักงานสอบวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.