เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม วาระกระทู้ถามทั่วไปของนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถาม รมว.ยุติธรรม เพื่อขอรับทราบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เกี่ยวกับการส่งตัวของผู้ต้องขังไปรักษานอกเรือนจำ หลังจากที่นายรังสิมันต์ ได้อภิปรายไปแล้วนั้น

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ลุกขึ้นชี้แจงว่า เราควรทำความจริงให้ปรากฏ เมื่อความจริงปรากฏ ความชั่วร้ายจะหายไป สำหรับการปฏิบัติต่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตนยืนยันว่าไม่ใช่การเลือกปฏิบัติ เพราะนายทักษิณ มีความกล้าหาญที่กลับมายังประเทศไทย และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในช่วงของรัฐบาลที่แล้ว ที่นายกฯ ก็เป็นหนึ่งในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรมว.ยุติธรรม ในขณะนั้นก็เป็นนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ที่มารักษาการ ขณะเดียวกันในช่วงนั้นนายเศรษฐา ทวีสิน ก็ยังไม่ได้เป็นนายกฯ และยังไม่รู้ว่าใครจะเป็นนายกฯ ดังนั้นนายเศรษฐา และตน คงไม่สามารถไปขอร้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี อดีตนายกรัฐมนตรี หรือนายวิษณุได้

รมว.ยุติธรรม กล่าวต่อว่า ส่วนการส่งผู้ต้องขังไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลภายนอกเรือนจำ เป็นไปตามมาตรา 55 ของ พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ปี 2560 ถือเป็นหลักการที่ผู้บัญชาการเรือนจำปฏิบัติ ตนได้ตรวจสอบกรณีที่แพทย์มีความเห็นให้ส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษายังโรงพยาบาลนอกเรือนจำ ก็ยังไม่เคยมีผู้บัญชาการเรือนจำคนใดหลังจากปี 60 ไปยับยั้งไม่ให้ไปเลย ส่วนการที่นายทักษิณ พักอยู่ในห้องควบคุมพิเศษ ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ นั้น แพทย์ไม่ได้เป็นคนจัด แต่สถานรักษาเป็นคนจัดให้ สถานรักษาอาจไม่ใช่แพทย์ แต่สถานรักษาของโรงพยาบาลตำรวจ ขึ้นตรงกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ซึ่งเป็นไปตามกฎกระทรวงการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ ปี 2563 และกฎกระทรวงกำหนดสถานที่คุมขังปี 63

“การที่นายทักษิณ ตัดสินใจกลับมาเข้ามาแล้วสถานการณ์ตอนนั้น เมื่อเรือนจำส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลภายนอกเรือนจำ ผมคิดว่าการดูแลความปลอดภัยสำคัญ ซึ่งเมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2549 ก่อนนายทักษิณจะถูกยึดอำนาจ เกิดเหตุการณ์ระเบิดคาร์บอมบ์ใกล้บ้านพักท่าน จากนั้นศาลทหารได้มีการตัดสินจำคุกผู้ที่อาจจะครอบครองระเบิด ยอมรับว่าผมไม่ทราบว่าดุลพินิจในขณะนั้น ทำไมถึงนำตัวนายทักษิณ ไปที่ชั้น 14 แต่เป็นเรื่องที่สอบถาม ทุกคนก็ต้องกลัว ถ้าท่านเป็นอะไรไป บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร จริงอยู่ท่านก็มีสถานะเหมือนผู้ถูกปฏิบัติทั่วไป ผมอยากเรียนว่า สังคมเรายังไม่ยอมรับการคุมขังที่อื่น จึงทำให้ทุกวันนี้ไม่สามารถออกระเบียบ ทำให้คนถูกยัดเยียดทรมานเหมือนปลากระป๋องอยู่ในเรือนจำ ท่านถามว่าผู้ต้องขังการเมืองกับผู้ต้องขังอื่นปฏิบัติเหมือนกันหรือไม่ ผมบอกว่าอดีตเป็นบทเรียนของผม แต่ปัจจุบันผมได้ทำแล้ว ผมไม่อยากให้สังคมคลางแคลง วันนี้กระทรวงยุติธรรมยุคนี้ จะสร้างความยุติธรรมให้กับคนทุกคน จะทำความยุติธรรมถ้วนหน้า แม้แต่ในเรือนจำ ผมอยากให้สังคมเข้าใจว่าโรงพยาบาลขณะนี้คือที่คุมขังอื่น ไม่ว่าจะนอนโรงพยาบาลกี่วัน ก็ถูกหักโทษเหมือนกัน” รมว.ยุติธรรม กล่าว

แต่นายรังมันต์ ยังติดใจและพยายามตั้งคำถามให้ พ.ต.อ.ทวี ตอบให้ชัดเจนเกี่ยวกับมาตรฐานความยุติธรรม พร้อมทั้งให้เปิดเผยภาพห้องพักรักษาตัวชั้น 14 เป็นอย่างไร และเรื่องเหตุการณ์คาร์บอมบ์เมื่อปี 49 แต่ปีนี้ปี 67 แล้ว ยิ่งนายกฯ ออนทัวร์ไปในที่ต่างๆ ไม่มีเหตุการณ์คาร์บอมบ์ใดๆ เลย การรักษาความปลอดภัยก็ไม่ได้ถึงขั้นแน่นหนา ประชาชนยังเข้าถึงนายกฯ ได้ง่าย มันยิ่งยืนยันว่าไม่เป็นแบบที่ พ.ต.อ.ทวี เข้าใจ หากมีข้อมูลมายืนยันชักเจนว่าจะมีคาร์บอมบ์ ตนรับฟัง นอกจากนี้ ยังอยากให้เปิดเผยชื่อแพทย์ที่ทำการรักษานายทักษิณ เนื่องจากกฎหมายไม่ได้ห้ามให้เปิดเผยชื่อแพทย์ ตนจะได้ดำเนินคดีได้ เพราะวันนี้มันพิสูจน์แล้วว่าคนๆ นี้ ไม่ได้ป่วยอะไร เพราะการที่มีนักโทษบางคน อดีตนายกฯ บางคน ได้รับสิทธิพิเศษแบบนี้ ไม้ได้ทำให้การละเมิดสิทธิมนุษยชนในเรือนจำลดลง

ทำให้นางศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงประธานการประชุม ขอให้ควบคุมการประชุม และตักเตือนให้ผู้อภิปรายให้อยู่ในข้องบังคับของกระทู้ถามทั่วไป

ด้านนายวันมูหะมัดนอร์ วินิจฉัยว่า ขอให้อยู่ในคำถามที่สงสัย และเป็นการตั้งคำถามในกระทู้ถาม ไม่ใช่ออกความเห็นหรือเป็นปัญหาข้อกฎหมาย

แต่นายรังสิมันต์ พยายามอภิปรายถึงการเดินทางไป จ.เชียงใหม่ ของนายทักษิณ ว่าสุขภาพยังแข็งแรง ลุกนั่ง ไหว้พระได้ และจดจำคุณยายที่ไม่ได้เจอกันมานานได้ ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ ท้วงติงให้นายรังสิมันต์ตั้งคำถามมาเลย แต่นายรังสิมันต์ ชี้แจงว่า จะตั้งคำถามได้ก็ต้องเล่าก่อน พร้อมเตรียมที่จะเปิดสไลด์เพื่อประกอบการอภิปราย ทำให้ สส.เพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงประธาน ขอให้ควบคุมการประชุมอีกครั้ง นายวันมูหะมัดนอร์ จึงขอให้นายรังสิมันต์ ตั้งคำถามเลย โดยไม่ต้องเปิดสไลด์ 

นายวันมูหะมัดนอร์ ชี้แจงว่า เดี๋ยวจะมีการประท้วงอีก เอาสไลด์ขึ้นมาก็เป็นการอธิบาย ถ้าต้องการอะไรก็ถาม ถ้ารัฐมนตรีตอบไม่ชัดเจน ผมก็จะให้ถามได้อีก ไม่เช่นนั้นก็ประท้วงอีก เพราะไม่ใช่ญัตติการอภิปราย เอาไว้อภิปรายวันที่ 3-4 เม.ย. วันนี้เป็นกระทู้ถาม ถามไปรัฐมนตรีตอบ ไม่ใช่ญัตติ ไม่ใช่การอภิปราย ท่านต้องเข้าใจข้อบังคับ เพราะกระทู้ถามชัดเจนว่าจะอนุญาตได้มากน้อยแค่ไหน ดังนั้นให้ถามได้เลย ไม่อนุญาตให้ขึ้นสไลด์ เพราะจะมีการประท้วงอีก ทำให้ดำเนินการตามข้อบังคับไม่ได้ ท่านอย่าคิดว่าเป็นการอภิปราย อันนี้กระทู้ ถ้าอภิปรายวันที่ 3-4 อนุญาตได้ ถามในข้อสงสัยและตอบ ตนอนุญาตให้แค่นี้

นายรังสิมันต์ พยายามชี้แจงว่า ที่นำสไลด์ขึ้นเพื่อที่จะให้รัฐมนตรีตอบ ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ พูดด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้นว่า ผมไม่อนุญาต ถามได้เลย แต่นายรังสิมันต์ พยายามแทรกว่า ท่านพยายามฟังนิดหนึ่ง ตนจะใช้เวลาไม่ถึงนาที แต่นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า เดี๋ยวก็จะมีการประท้วงอีก ทำให้ประธานควบคุมการประชุมไม่ได้ ท่านถามได้เลย ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะท่านมีประสบการณ์เรื่องนี้ และเข้าใจดี ต้องดำเนินการประชุม ตนเข้าใจนายรังสิมันต์ดีว่าเป็นนักประชาธิปไตย แต่ตนต้องทำตามข้อบังคับ ทำผิดข้อบังคับไม่ได้ ดังนั้นให้ถามได้เลย สไลด์ไม่อนุญาตแล้ว เพราะจะเป็นการอภิปราย นายรังสิมันต์ จึงตะโกนเสียงแข็งว่า “ผมจะถามจากสไลด์เพื่อให้รัฐมนตรีดู ผมจะได้ถาม” ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวด้วยน้ำเสียงขึงขังว่า “ก็ถามไปเลย” แต่นายรังสิมันต์  พูดแทรกว่า  “ทำไมมาปิดไมค์ผมแบบนี้”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวันมูหะมัดนอร์ เริ่มมีน้ำเสียงที่ไม่พอใจ พร้อมชี้แจงว่า “เป็นอำนาจของประธาน ท่านถามจากคำถามได้ ถ้าคุณพูดต่อไม่หยุด ผมจะให้คุณนั่งลง ไม่อย่างนั้นจะเชิญคุณออกไป ท่านต้องเข้าใจผม ประธานต้องดูแลการประชุมให้เป็นไปตามระเบียบ ท่านจะมาตวาดใส่ผมได้อย่างไร ผมได้วินิจฉัยแล้วว่าถ้าเอาสไลด์ขึ้นมาก็ประท้วงอีก ท่านถามได้เลย ทำไมคุณถามไม่ได้ ไม่อย่างนั้นผมไม่อนุญาต และจะปิดกระทู้นี้แล้ว”

ด้านนายซูการ์โน มะทา สส.ยะลา พรรคประชาชาติ ลุกขึ้นชี้แจงเห็นด้วยกับประธานการประชุมว่า วินิจฉัยถูกต้อง และคำวินิจฉัยของท่านประธานถือว่าเป็นที่สิ้นสุด และเด็ดขาด ขอให้สมาชิกเคารพข้อบังคับเพราะเราอยู่ในที่ประชุมสภา

ขณะที่นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคก้าวไกล ประท้วงว่า ขอให้ประธานวางตัวเป็นกลางและควบคุมการประชุม จะใช้ดุลพินิจว่าสไลด์นี้เปิดมาจะมีผู้ประท้วง ทั้งที่สไลด์ได้รับอนุญาตเรียบร้อย ไม่น่าจะถูกต้อง และให้ สส. ก็ต้องอดทนฟัง จึงขอให้ทบทวนอีกครั้ง

นายวันมูหะมัดนอร์ ชี้แจงอีกครั้งว่า ตนพยายามที่จะทำหน้าที่ให้เป็นกลาง แต่ขณะเดียวกัน ตนก็ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามข้อบังคับด้วย ตนได้วินิจฉัยแล้วว่า กระทู้ถามมาตอบ ถ้าคำถามไม่ชัดเจนก็จะต่อได้ ทำให้นายรังสิมันต์ ยอมตั้งคำถามต่อ โดยไม่ได้เปิดสไลด์ การประชุมจึงได้ดำเนินต่อไป.