เมื่อวันที่ 25 ส.ค. พ.ต.ท.ภาสกร มณีรัตน์ รอง สว.(สอบสวน)สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุยิงกันในซอยรามคำแหง 58/3 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิสยามร่วมใจ ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าบ้านตึกแถว 1 คูหา พบ ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี นักศึกษาวิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งหนึ่ง ชั้น ปวช.ปี 2 สภาพนอนหายใจรวยรินอยู่หน้าบ้านมีบาดแผลถูกยิงที่ชายโครงขวา 2 นัด ช่วงอกขาว 1 นัด อาการสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯเร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้นพร้อมปั๊มหัวใจนำส่งโรงพยาบาลรามคำแหง แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนที่เกิดเหตุยังพบรถจยย.ผู้ตาย สภาพเสียหายชนเข้ากับประตูบ้าน จึงเก็บและบันทึกไว้เป็นหลักฐาน

สอบถาม มารดา ผู้ตายวัย 48 ปี เล่าทั้งน้ำตาว่า ก่อนเกิดเหตุเป็นเวลาที่ลูกชายจะกลับจากโรงเรียนพอดี ระหว่างนั้นยินเสียงรถจยย.พุ่งชนประตูหน้าบ้านเสียงดังพร้อมได้ยินเสียงปืนดังประมาณ 3- 4 นัด จึงวิ่งออกไปดูพบลูกชายนอนอยู่บริเวณพื้นหน้าบ้านขณะเดียวกันเห็นคู่กรณี 2 คน ขี่จยย.ซ้อนท้ายกันมา โดยคนซ้อนท้ายแต่งกายมิดชิด สวมหมวกกันน็อกเต็มใบลงจากรถมาจะยิงซ้ำ ตอนนั้นตนขอร้องผู้ก่อเหตุบอกว่า “พอแล้ว อย่ายิงลูกแม่อีกเลย” ผู้ก่อเหตุทำท่านิ่งไปก่อนจะซ้อนท้ายรถจยย.เร่งเครื่องหลบหนีไป

แม่ผู้ตาย กล่าวอีกมา ตนจะไม่บอกว่าลูกชายเป็นคนดี แต่ก็ไม่เคยหาเรื่องใคร สมัยเรียนมัธยมต้นก็ไม่เคยมีปัญหากับใคร พอจบ ม.3 เข้าเรียนสายอาชีวะ ก็ไม่เคยมีปัญหากับใคร แต่ก็เคยเตือนอยู่ประจำว่าให้ระมัดระวังตัว อย่างไรก็ตามตนก็มีผู้ต้องสงสัยอยู่ในใจ เนื่องจากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา ลูกชายไปมีปัญหากับเพื่อนสมัยเรียนมัธยมต้น แต่ปัจจุบันไม่ได้เรียนที่เดียวกัน โดยคู่กรณีเข้าใจผิดคิดว่าลูกชายตนขี่จยย.ไล่ จึงมีการนัดเคลียร์กัน ซึ่งกลายเป็นว่าลูกชายตนถูกคู่กรณีใช้มีดฟันมือและหลังบาดเจ็บสาหัสเย็บ 30 เข็ม

แม่ผู้ตาย เล่าว่า จากนั้นเข้าแจ้งความกับทางเจ้าที่ตำรวจ และพูดคุยไกล่เกลี่ยกับทางญาติผู้ก่อเหตุ ซึ่งทางญาติผู้ก่อเหตุ ยินดีชดใช้ค่าเสียหาย เป็นเงิน 30,000 บาท ซึ่งตนอยากให้คนก่อเหตุมาขอโทษอีกทางหนึ่ง แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยได้รับคำขอโทษจากคนทำเลย คิดว่าเรื่องนี้น่าจะจบแล้ว สุดท้ายเพิ่งมารู้ไม่กี่วัน ว่าคู่กรณีฝากเพื่อนมาบอกว่า ไม่ยอม และจะเอาเงิน 30,000 บาทคืน ซึ่งไม่รู้ว่าเหตุการณ์หลังจากนั้นเป็นอย่างไรต่อ กระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าว อยากให้ตำรวจติดตามจับตัวคนร้ายให้ได้ ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบวงจรปิดโดยรอบ พร้อมจะประสานคู่กรณีที่แม่ผู้ตายสงสัย มาสอบปากคำเพื่อเร่งติดตามตัวคนร้ายมาสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป