จากกรณีโลกออนไลน์แชร์เรื่องราวของ หนุ่มโปรแกรมเมอร์บริษัทแห่งหนึ่ง ที่เล่นแอปหาคู่แล้วโดนฝ่ายหญิงหลอกเอาเงินไปกว่า 3.7 แสนบาท โดยมีการกดเงินสดจากธนาคารถึง 2 วัน ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับคนร้ายที่มักจะแฝงตัวเข้ามาเพื่อหาช่องทางหลอกเอาเงิน โดยจะใช้หนุ่ม-สาวที่มีลักษณะหน้าตาที่ดี พูดคุยให้อีกฝ่ายรู้สึกดีเชื่อมั่นว่ามีใจ ก่อนจะใช้อุบายที่ดูแยบยล จนทำให้เหยื่อต้องเสียรู้ให้กับมิจฉาชีพเหล่านี้

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี โปรแกรมเมอร์บริษัทแห่งหนึ่งว่า ตนเล่นแอปหาคู่แล้วคุยกับ น.ส.แอม (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี โดยพูดคุยกันถูกคอจึงนัดเจอตัวกัน ซึ่งฝ่ายหญิงทีท่าทีที่ชอบอะไรเหมือน ๆ กัน จนคิดว่าทางฝ่ายหญิงก็น่าจะมีใจอยู่บ้าง กระทั่งอีกฝ่ายบอกเรื่องปัญหาการเงินเกี่ยวกับที่ซื้อกองทุนรายหนึ่งไป 2 ล้าน ภายหลังได้กำไร 190% เป็นเงิน 3.8 ล้าน ซึ่งสามารถรับได้แค่ 2 ล้าน ส่วนที่เหลือต้องให้คนอื่นที่ไม่ได้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขมารับผลประโยชน์แทน ซึ่งตกลงกันว่าให้ตนเป็นคนรับ ก่อนจะนำเงินมาแบ่งกันคนละครึ่ง หรือประมาณ 9 แสนบาท

ฝ่ายหญิงได้หลอกให้ตนไปกดเงินจากธนาคารวันแรก 290,000 บาทเพื่อนำมามอบให้ จากนั้นวันที่ 2 ยังให้ตนกดมาให้อีก 8.5 หมื่นบาท โดยจะให้ไลน์แมน มารับเงินแทน จากนั้นก็แจ้งว่าได้โอนเงินกลับมาให้ตนแล้ว แต่เป็นเช็คเด้ง ตอนนั้นเริ่มรู้ตัวว่าโดนหลอกแล้ว ขณะที่ฝ่ายหญิงพยายามขอบัญชีตน เพื่อจะแกล้งโอนเงินหลอกอีกรอบ ตนจึงรีบเข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.เมืองนนทบุรี

โดยฝ่ายหญิงพูดคุยกับเจ้าหน้าที่แล้วทำเหมือนรับทราบข้อกล่าวหา จากนั้นก็ไม่ติดต่อกลับมาอีก เมื่อตนโทรหาก็ตัดสายทิ้งตลอด จึงอยากให้ตำรวจจับกุมมิจฉาชีพรายนี้ให้ได้โดยเร็ว เพราะเชื่อว่าหากปล่อยไว้ ก็คงจะไปหลอกเอาเงินจากคนอื่น ๆ อย่างแน่นอน ซึ่งก็เป็นไปตามคาด เมื่อเจ้าหน้าที่พบว่า มีเหยื่อที๋โดนโกงเอาเงินในลักษณะเดียวกันนี้เมื่อหลายปีก่อน มีการออกหมายจับไปแล้ว แต่อีกฝ่ายก็ยังลอยนวลอยู่ แถมใช้ชีวิตปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น.