เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 ส.ค. ที่ สน.บางเขน น.ส.ชลลดา บุตรวิชา ทีมงานสายไหมต้องรอด พา น.ส.เนย (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แห่งหนึ่งย่านรามอินทรา เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.คีตาภัช โชตินัส สว.(สอบสวน) สน.บางเขน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายทหาร ยศพันเอกพิเศษ อายุ 47 ปี ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา และพรากผู้เยาว์อายุ 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี

น.ส.เนย เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับ พ.อ.พิเศษ ผ่านแอปพลิเคชั่นหาคู่ โดยฝ่ายชายใช้รูปเมื่อตอนยังหนุ่มและได้คุยกันมาสักระยะ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 15 ต.ค. 65 ฝ่ายชายได้ชักชวนให้ตนไปนั่งเล่นที่บ้านพักย่านรามอินทรา ซอย 5 ไม่ไกลจากโรงเรียนของ น.ส.เนย ในช่วงหลังเลิกเรียน เมื่อไปถึงภายในบ้านบริเวณห้องโถงมีฝ่ายชายอยู่คนเดียวกำลังนั่งดื่มสุรามีอาการมึนเมาอยู่โชฟา และพบว่าอายุมากแล้ว เพราะใช้รูปสมัยก่อนไม่ได้ใช้รูปปัจจุบัน ตนจึงพยายามขอตัวกลับบ้าน แต่ฝ่ายชายก็ขยับมาใกล้ๆ มาลูบมาจับแล้วใช้กำลังบังคับขืนใจ ซึ่งตนมาทราบภายหลังว่าภายในบ้านมีพ่อแม่อายุมากที่ป่วยอยู่พักอยู่อีกในห้อง

น.ส.เนย กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุตนไม่กล้าบอกใครและพยายามตีตัวออกห่าง แต่ฝ่ายชายพยายามตามง้อและพูดโน้มน้าวใจว่าจะขอดูแล อาทิ ค่าเลี้ยงดู ซื้อคอนโด เปิดตัวกับเพื่อนฝูง และจะพาไปจดทะเบียนสมรส แต่พักหลังฝ่ายชายเริ่มตีตัวออกห่าง พร้อมกับไม่ส่งเสียเลี้ยงดู จึงนำเรื่องมาแจ้งกับเพจสายไหมต้องรอดให้ช่วยเหลือ พร้อมขอปกปิดรายละเอียดของตนไม่อยากให้ทางบ้านทราบเรื่องดังกล่าว

ต่อมา พนักงานสอบสวนได้พาผู้เสียหายมาชี้บ้านที่เกิดเหตุอยู่ภายในซอยรามอินทรา ซอย 5 ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด เพื่อถ่ายภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนออกจากพื้นที่พา น.ส.เนย ไปตรวจร่างกาย
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับแม่บ้านทราบว่าบ้านหลังนี้พักอาศัยกัน 4 คน ประกอบด้วย พันเอกพิเศษ หลานชาย และพ่อแม่ ในวันนี้ผู้ถูกกล่าวหาได้ออกไปตีกอล์ฟตั้งแต่ช่วงเช้าแล้ว ส่วนรายละเอียดเรื่องการขืนใจนี้ไม่ทราบเรื่อง

ด้าน พ.ต.ท.คีตาภัช กล่าวว่า เบื้องต้นรับเรื่องไว้พร้อมให้เจ้าหน้าที่นำตัวผู้มาแจ้งความร้องทุกข์ไปชี้บ้านที่เกิดเหตุและส่งตัวไปตรวจร่างกาย รพ.ภูมิพล แล้วจะทำการสอบปากคำพร้อมสหวิชาอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายเรียกพันเอกพิเศษ มาปากสอบปากคำต่อไป.