เมื่อวันที่ 29 ส.ค. จากกรณีพ่อแม่ลูกรวม 4 ชีวิต ประสบปัญหาหนี้สินจากการไปค้ำประกันเงินกู้ แถมเคราะห์ซ้ำถูกแอปเงินกู้หลอกโอนเงินสูญกว่า 1.7 ล้านบาท เป็นเหตุให้ผู้เป็นพ่อตัดสินใจฆ่าภรรยาพร้อมกับลูกชายอีก 2 คน ก่อนจะปาดคอตัวเองหวังตายตามเพื่อจบปัญหา แต่สุดท้ายพ่อรอดชีวิต ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต่อมาทางโรงเรียนของลูกชายคนเล็กเปิดรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือเรื่องการจัดงานศพ เพราะเห็นว่าไม่มีญาติ พบว่ายอดบริจาคสูงถึง 2,390,000 บาท ซึ่งปิดรับบริจาคไปแล้ว และทางโรงเรียนยังคงรอดูท่าทีญาติทั้งสองฝ่ายที่ยังตกลงกันไม่ได้เรื่องการจัดงานศพ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ วัดถนนงาม หมู่ที่ 1 ตำบลคลองขลุง อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งเป็นสถานที่ที่ญาติของนายสาณิช ผู้เป็นพ่อ ได้รับศพผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย คือ สะใภ้ และหลานอีก 2 คน มาบำเพ็ญกุศล โดยพี่ชายนายสาณิช กล่าวว่า ได้รับศพมาถูกต้องตามกฎหมาย ยืนยันว่าจะดำเนินการตั้งศพทั้ง 3 บำเพ็ญกุศลที่วัดแห่งนี้ จนถึงการพิธีฌาปนกิจศพในวันเสาร์ที่ 2 ก.ย. 66 หากญาติทางสมุทรปราการจะมารับศพไป ยืนยันว่าไม่ให้ศพไปอย่างแน่นอน แต่ก็ให้มาร่วมงานได้ ส่วนน้องชายตอนนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังคงต้องรักษาตัวอยู่เพราะบาดเจ็บสาหัส

จบปัญหาตายปุ๊บ..ญาติโผล่แย่งศพ! โรงเรียนปัดให้เงิน 2.3 ล้าน ชี้อาจนำไปให้รพ.แทน

โดยในระหว่างที่ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับพี่ชายอยู่นั้น ก็มีสายวิดีโอคอลจากนายสาณิช ผู้ก่อเหตุเข้ามาพูดคุย พี่ชายจึงสอบถามอาการบาดเจ็บ นายสาณิชก็ทำได้เพียงพยักหน้าตอบโต้กันเท่านั้น ซึ่งพี่ชายอดน้ำตาไหลไม่ได้ เพราะยังทำใจไม่ได้ ก่อนจะวางสายโทรศัพท์ไป

พี่ชายนายสาณิช ยังบอกอีกว่า ส่วนเงิน 2 ล้านกว่าบาท ที่มีการเปิดรับบริจาคนั้น ตนไม่ทราบเรื่อง ความตั้งใจจริงที่ไปรับศพทั้ง 3 มานั้น เพื่อที่จะมาบำเพ็ญกุศลตามศาสนาเพียงเท่านั้น ส่วนเงินในการทำศพยืนยันว่ามีกำลังพอที่จะดำเนินการโดยไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเงินบริจาคแต่อย่างใด

ด้านนายสุรศักดิ์ พ่อเลี้ยงของนางวิภาพร ที่เสียชีวิต กล่าวว่า ตนเองในฐานะพ่อเลี้ยง ที่มีการจดรับรองบุตรบุญธรรมถูกต้องตามกฎหมาย สาเหตุที่อยากรับศพลูกและหลานมาจัดการที่วัดหนามแดงนั้น เพราะว่าทางแม่ของเขาเสียชีวิตที่นี่ และเคยไว้ที่วัดหนามแดง ส่วนตนเองก็เคยพักอาศัยที่หมู่บ้านเดียวกับลูกสาว เลยอยากให้ลูกสาวและหลานมาอยู่กับแม่เขา นี่คือสิ่งที่ตั้งใจไว้ในตอนแรก ส่วนประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องเงินบริจาคนั้น ตนเองไม่เคยทราบเรื่องมาก่อน แต่พอกลายเป็นกระแส ตอนนี้ตัดสินใจแล้วว่ายอมไม่ยื้อที่จะเอาศพลูกสาวมาที่วัดหนามแดง และตัดสินใจแล้วว่า มอบหมายให้ทางจังหวัดกำแพงเพชร ดำเนินการตามประเพณี ส่วนตนเองและครอบครัว ก็จะเดินทางไปร่วมงานในวันเผาแล้วเดินทางกลับทันที ทั้งนี้เพื่อความสบายใจ ไม่อยากให้สังคมตราหน้าว่าแย่งศพกัน ส่วนลูกเขยก็ให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย