กลายเป็นที่จับตาขึ้นมาทันที กับตำแหน่งผู้จะมารับไม้ต่อ เก้าอี้ ‘ผบ.ตร. คนที่ 14’ ภายหลังก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. แทบจะนอนมาเป็นเต็ง 1 ผู้จะครองนามเรียกขาน ‘พิทักษ์ 1’ คนต่อไป แต่ภายหลังเมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะประธาน ก.ตร. ซึ่งเดินทางมาเป็นประธาน ก.ตร. ในวันดังกล่าว ได้ขอถอนวาระในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการยื่นเสนอรายชื่อ ผบ.ตร. คนที่ 14 ออกไป ระบุเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล และให้เป็นการใช้ดุลพินิจของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนใหม่ในการเลือก ผบ.ตร. และการแต่งตั้ง รอง ผบ.ตร. ลงไป โดยมีการขยายเวลาการแต่งตั้งไปถึงปลายเดือน ก.ย. 66 กระทั่งล่าสุด พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มีหนังสือคำสั่งลงวันที่ 29 ส.ค. เรื่อง การคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ถึง พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. จัดทำผลการปฏิบัติงาน พร้อมทั้งสรุปสภาพปัญหาการปฏิบัติงานหรือสภาพปัญหาของ ตร. ในปัจจุบัน และแนวทางการแก้ปัญหาดังกล่าวในอนาคต หากได้รับการคัดเลือกแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. โดยจัดทำเป็นเอกสารรวมจำนวนไม่เกิน 4 แผ่น (ขนาด A4) แล้วส่งไปยัง ตร. (ผ่าน สกพ.) ภายใน 1 ก.ย. 66 นั้น

ยึดอาวุโส! ‘เศรษฐา’ ลั่น เคาะ ผบ.ตร. คนใหม่เอง ลั่นแต่งตั้งโยกย้ายต้องไม่มีซื้อขายตำแหน่ง

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ ผลการปฏิบัติงาน พร้อมทั้งสรุปสภาพปัญหาการปฏิบัติงานหรือสภาพปัญหาของ ตร. ในปัจจุบัน และแนวทางการแก้ปัญหาดังกล่าวในอนาคต หากได้รับการคัดเลือกแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. ของ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ได้ถูกส่งไปยัง ตร. (ผ่าน สกพ.) ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 66 ที่ผ่านมาแล้ว

เปิดกฏเหล็ก ‘พ.ร.บ.ตำรวจ 2565’ กฎหมายใหม่ที่ ก.ตร. ใช้แต่งตั้ง ‘ผบ.ตร.’ เป็นครั้งแรก

สำหรับการคัดเลือก ผบ.ตร.คนใหม่ ในการพิจารณาแต่งตั้ง ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่ขั้นตอนการได้มาของ ผบ.ตร. คนที่ 14 เปลี่ยน “กฎเหล็ก” ให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 จะต้องคัดเลือกจาก รอง ผบ.ตร. หรือ จเรตำรวจแห่งชาติ โดยคำนึงถึงหลักอาวุโสและความรู้ความสามารถประกอบกัน โดยเฉพาะประสบการณ์ในงานสืบสวนสอบสวน หรืองานป้องกันปราบปราม ให้คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. พิจารณาเห็นชอบ จากนั้นนายกฯ นำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565

4 รอง ผบ.ตร. วัดกำลังยกสุดท้าย

วันนี้ทีมข่าว เดลินิวส์ จะพามาส่องผลงานและโปรไฟล์ รอง ผบ.ตร. 4 แคนดิเดตที่ถูกคาดการณ์นี้ จะเป็นผู้รับไม้ต่อ นามเรียกขาน “พิทักษ์ 1” ได้แก่ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 40 เกษียณอายุราชการปี 2567 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 47 เกษียณอายุราชการปี 2574 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 41 เกษียณอายุราชการปี 2569 และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล นายร้อยอบรม เกษียณอายุราชการปี 2567

ลำดับอาวุโส-เทียบโปรไฟล์

หากตาม ลำดับอาวุโส เบอร์ 1 คือ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ หรือ “รองรอย” นักเรียนเตรียมทหารรุ่น 24 นายร้อยตำรวจรุ่น 40 เกษียณอายุราชการปี 2567 เวลาครองตำแหน่ง ตั้งแต่ ผกก.-รอง ผบ.ตร. รวม 21 ปี ผ่านตำแหน่งสำคัญก่อนก้าวขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. และ รอง ผบ.ตร. โดยเคยเป็นทั้ง ผบก.ตม.3, ผบก.ทท., ผบช.ส., ผบช.ศ. และ รรท.ผบช.ภ.2 ผลงานโดดเด่น แก้ไขปัญหาบ่อนพนันภาคตะวันออก, ผอ.ศูนย์อำนวยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศลต.ตร.) ภารกิจหลักดูแลความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง ปี 2562 และปี 2565, รับผิดชอบดูแลรักษาความปลอดภัยภารกิจ การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจ APEC 2022 Thailand, ผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT ปราบปรามภัยทางออนไลน์, ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมและความมั่นคง (ศตปค.ตร.), ศูนย์บริหารงานจราจร (ศจร.ตร.) และศูนย์บังคับและต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) (ศบตอ.ตร.) รวมทั้ง ผอ.ศูนย์ปราบปรามค้ามนุษย์ ห้วงปี 2564-2565 วางแนวทางการปฏิบัติจนทำให้ปรับระดับเทียร์ (Tier) ดีขึ้น

อาวุโสลำดับ 2 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก นักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 31 นักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 47 พ่วงปริญญาโท สังคมศาสตรมหาบัณฑิตสาขาอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม จากมหาวิทยาลัยมหิดล, ปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขารัฐประศาสนศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย และปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาอาชญาวิทยามหาวิทยาลัยมหิดล เกษียณอายุราชการปี 2574 เวลาครองตำแหน่ง ตั้งแต่ ผกก.-รอง ผบ.ตร. 14 ปี ผ่านตำแหน่งสำคัญก่อนก้าวขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. และ รอง ผบ.ตร. เคยเป็นทั้ง ผบก.ทท., ผบก.สปพ.และ ผบช.สตม. ผลงานโดดเด่นปิดคดีแอม ไซยาไนด์, คดีคนไทยรับจ้างอุ้มบุญ, คดีมูลนิธิคุ้มครองเด็ก “บ้านครูยุ่น” ทำร้ายเด็ก-บังคับไปทำงานรีสอร์ท, ทลายเครือข่ายขบวนการค้าน้ำมันเถื่อน, คดีทุนจีน รวมถึงการปราบปรามปัญหาบุกรุกที่ดินเกาะหลีเป๊ะ, ผอ.ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และปราบปรามการค้ามนุษย์ (ศพดส.ตร.) โชว์ผลงาน ขยับสถานการณ์ค้ามนุษย์ประเทศไทยขึ้นสู่เทียร์ 2

อาวุโสลำดับ 3 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ หรือ “รองต่าย” นักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 41 นักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 25 เกษียณอายุราชการปี 2569 เวลาครองตำแหน่ง ตั้งแต่ ผกก.-รอง ผบ.ตร. รวม 18 ปี ผ่านตำแหน่งสำคัญก่อนก้าวขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. และ รอง ผบ.ตร. เคยเป็น เลขานุการ ตร., ผบก.ส.1 และ ผบช.ภ.8 ผลงานโดดเด่น เป็นหัวหน้าคณะทำงานศึกษาการขับเคลื่อนองค์กร ตาม พ.ร.บ.ตำรวจฯ ฉบับใหม่, บริหารศูนย์ปราบปรามการฟอกเงิน และ เป็น “ผู้บัญชาการเหตุการณ์” ปิดล้อมกดดันอดีตทหารเกณฑ์หน่วยรบพิเศษค่ายเอราวัณ จ.ลพบุรี สติแตกไล่ฆ่า 2 ศพ หนีข้ามจังหวัดไปกบดานที่บ้าน ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง

ปิดท้าย แคนดิเดตที่อาวุโสลำดับ 4 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล หรือ “รองต่อ” ดีกรีปริญญาตรีรัฐศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สิงห์แดงรุ่น 38 ปริญญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณทิต จากมหาวิทยาลัยศรีปทุม เข้าอบรมหลักสูตรการฝึกอบรมผู้มีวุฒิ ทางด้านนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ เพื่อบรรจุแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร (กอต.) รุ่นที่ 4 เกษียณอายุราชการปี 2567 เวลาครองตำแหน่ง ตั้งแต่ ผกก.-รอง ผบ.ตร. รวม 6 ปี ผ่านตำแหน่งสำคัญ ก่อนขึ้นเป็น รอง ผบ.ตร. คือ ผบก.ตำรวจมหาดเล็ก 904 และ ผบช.ก. ผลงานโดดเด่น ทั้งการคุมงานด้านกฎหมายและปราบปราม โดยเฉพาะ ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถ, ปราบปรามการแข่งรถในทาง ปราบปรามตัดไม้ทำลายป่า ตัดวงจรขบวนการคอลเซ็นเตอร์ และหัวหน้าคณะทำงานแก้ไขเรื่องอาวุธปืนหลวง ปัดฝุ่นระเบียบปืนสวัสดิการ นำ QR Code มาใช้ตรวจสอบและติดตามแก้ปัญหาลอบนำปืนหลวงออกไปขาย

จากสเปกและโปรไฟล์ผลงานของ 4 แคนดิเดต ระดับรอง ผบ.ตร. ที่ทีมข่าว เดลินิวส์ นำเสนอ เชื่อได้ว่าล้วนเป็นที่ประจักษ์ในสายตายุทธจักรสีกากีและประชาชนไปบ้างแล้ว ที่สำคัญขณะนี้ ผลการปฏิบัติงานและวิสัยทัศน์ในการพัฒนาองค์กรตำรวจอย่างบูรณาการของแคนดิเดตที่ 4 ราย ล้วนถูกส่งไปยัง ตร.(ผ่าน สกพ.) ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 66 ที่ผ่านมาแล้ว เวลานี้จึงต้องวัดใจ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 แล้ว ว่าจะเลือกใครเป็นเจ้าของรหัส “พิทักษ์ 1” คนที่ 14.